เมื่อวันที่ 6 มกราคม นางเบญจพร คงมั่น หรือ เจี๊ยบ เบญจพร อายุ 48 ปี นักร้องสาวชื่อดังที่กำลังตกเป็นข่าวกรณีแต่งงานได้เพียงไม่ถึง 3 เดือนกับ นายธวัชชัย คงมั่น อายุ 22 ปี และสามีได้ไปคบซ้อนและไปขอแต่งงานใหม่กับหญิงสาวอื่น พร้อมด้วย นายกมลภู สวัสดิสาร ทนายความ มายังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร เพื่อยื่นฟ้องหย่าสามี
จากนั้นได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด้านนอกว่า การมาศาลครั้งนี้เพื่อยื่นฟ้องหย่าสามี เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ตนไม่ได้การติดต่อกลับมาทั้งฝ่ายผู้หญิงและสามีของตน ที่ผ่านมาตนให้สัมภาษณ์ไปแล้วหลายรายการว่าอยากให้ออกมาคุยและเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าหากไม่มีการติดต่อกลับมาก็จะดำเนินการฟ้อง แต่สุดท้ายก็ไม่มีการพูดคุยและไม่ติดต่อกลับมาเลย จึงตัดที่จะฟ้องทั้งสามีและฝ่ายหญิงที่สามีของตนไปขอแต่งงานด้วย เนื่องจากเป็นสาเหตุในเรื่องดังกล่าว และเป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายทั้งด้านชื่อเสียง สินสอด ค่าเรือนหอ สินสมรสที่ร่วมกันสร้างมา
รวมทั้งสิ้นเป็นเงินประมาณ 3.5 ล้านบาท เรือนหอที่สร้างเป็นสินสมรส ซึ่งฝ่ายชายก็ช่วยออกเงินส่วนหนึ่ง แต่เงินค่าสร้างหลักๆ จะเป็นของตนเกือบทั้งหมด มีทั้งพยานและหลักฐาน ทั้งในส่วนของช่าง ร้านวัสดุก่อสร้างที่ไปสั่งของ และบิลที่ซื้อของ ตนเป็นคนจัดการทั้งหมด ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเกือบทั้งหมด ทั้งเตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างภายในบ้าน เป็นของตนที่เอามาจากบ้านที่กรุงเทพ และเป็นคนซื้อเองทั้งหมด
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เคยมีการเจรจากันก่อนหน้านี้ว่าจะมีการฟ้องหย่า เจี๊ยบ-เบญจพร ตอบว่าไม่มีการเจรจากันก่อน เพราะไม่ได้มีการพูดคุยและติดต่อกลับมา แม้จะติดต่อฝ่ายชายได้ แต่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมพูดคุยรวมถึงทั้งพ่อแม่ของสามีด้วย เหมือนพยายามหลบเลี่ยง ซึ่งตนก็พยายามยืนยันว่า ถ้าไม่คุยเราจะฟ้อง ส่วนเรื่องที่ฝ่ายชายได้ออกมาบอกว่าหมดเงินกับตนเองไปเป็นจำนวนมากนั้น ขอให้ไปต่อสู้กันในชั้นศาล ตนมีพยานและหลักฐาน ส่วนเรื่องที่มีการให้ข่าวว่า ฝ่ายชายได้ขอหย่าแต่ตนไม่ยอมหย่านั้น เป็นเรื่องโกหกที่ฝ่ายชายสร้างเรื่องมาว่าจะหย่าเพื่อแก้เคล็ด แต่ไม่ได้มีการหย่ากันใดๆทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่มีข่าวออกมาว่าฝ่ายชายยังไปมาหาสู่กับผู้หญิงที่ไปขอแต่งงานนั้น เจี๊ยบ เบญจพร บอกว่า มีชาวบ้านเห็นว่าทั้งคู่ยังไปมาหาสู่กัน ยังมาที่เรือนหอซึ่งเป็นสินสมรสของตนด้วย และถ้าฝ่ายชายจะมาขอโทษและขอคืนดีด้วยตนก็ยืนยันว่าไม่มีทางกลับไปแล้ว
“อยากฝากถึงฝ่ายชายว่า ให้ออกมารับผิดชอบ ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาพูดความจริง ทุกอย่างอยู่ที่หลักฐาน ให้ศาลเป็นคนตัดสิน และต่อจากนี้คงหยุดเรื่องความรัก เพราะที่ผ่านมาเจ็บมาก ระหว่างนี้ขอทำงานในสิ่งที่เจี๊ยบรักต่อดีกว่า” เจี๊ยบ เบญจพร กล่าว
