เมื่อวันที่ 7 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุที่ร้านจำหน่ายแบตเตอรี่ “ต้า แบตเตอรี่” ตั้งอยู่กลางเมืองลำปาง บริเวณริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายลำปาง-งาว-พะเยา ใกล้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง หลังจากได้รับแจ้งว่าร้านถูกโจรเข้ามางัดอีกแล้ว และมีทรัพย์สินภายในร้านสูญหายไป
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบนางญานิศา หรือเจ้ต้า อายุ 41 ปี เจ้าของร้านอยู่ ได้ชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูหน้าร้าน ซึ่งเป็นประตูม้วนเหล็ก แต่ถูกงัดที่ล็อกกุญแจ ก่อนจะเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในร้าน ซึ่งเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ใหม่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยมีโจรเข้ามาก่อเหตุแล้วถึง 2 ครั้ง เมื่อเดือนตุลาคม 2562 ได้แบตเตอรี่ใหม่ไปหลายใบ พร้อมเครื่องชาร์จไฟ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 หมื่นบาท แต่เจ้าหน้าที่ยังตามจับกุมตัวมาไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นใคร ถึงแม้จะมีการติดกล้องวงจรปิดไว้ แต่โจรได้ขโมยเมมโมรีการ์ดบันทึกภาพของกล้องไปด้วย จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเข้ามาขโมยของภายในร้าน
“ตนได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดอีกตัว เพื่อตรวจสอบ กระทั่งมาเกิดเหตุขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และกล้องวงจรปิดตัวใหม่ ก็สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด ขณะผู้ก่อเหตุเข้ามาในร้าน ซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องตกตะลึงและเสียใจมากคือ โจรที่งัดร้านเข้ามานั้นเป็นสามีเก่าที่เลิกรากันไปนานแล้วกว่า 1 ปี สำหรับตนเองนั้นได้เช่าที่ริมทางดังกล่าวเพื่อเปิดเป็นร้านจำหน่ายแบตเตอรี่ ทั้งเก่าและใหม่หลายยี่ห้อ ได้ประมาณ 2 เดือนกว่า” นางญานิศากล่าว
นางญานิศากล่าวว่า ในครั้งนี้ โจรสามีเก่าได้อาศัยช่วงกลางดึก เวลา 01.00 น. ของวันที่ 6 มกราคม 2563 เข้ามาก่อเหตุ โดยเดินดูทรัพย์สินภายในร้าน ก่อนลักขโมยแบตเตอรี่ออกไปประมาณ 30 ใบ ราคาลูกละเกือบ 3,000 บาท รวมค่าเสียหายเกือบ 100,000 บาท โดยในภาพกล้องวงจรปิดพบว่า หลังงัดเข้ามาในร้านแล้วได้เดินดูทรัพย์สินภายในร้าน และปิดไฟที่เปิดไว้ แต่กล้องระบบอินฟาเรดสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมในการก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ทั้งพยายามที่จะเปิดที่ล็อกคอรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ภายในร้าน แต่ไม่สามารถเปิดล็อกได้ ก่อนจะก่อเหตุขโมยแบตเตอรี่ออกจากร้าน คาดว่าจะขนไปโดยรถยนต์ที่มาจอดหน้าร้าน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปจับกุมตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็ว และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
