สธ.ส่งทีมเยียวยาเด็กในเหตุการณ์-เพื่อนร่วมชั้น ป.4 ปืนลั่น หวั่นเครียดเฉียบพลัน-มีแผลทางใจ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขตสุขภาพที่ 9 ได้ส่งทีมวิกฤตสุขภาพจิต เดินทางไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเยียวยาเด็กนักเรียนชั้น ป.4 จากเหตุการณ์ถูกปืนพกสั้นลั่นใส่จนได้รับบาดเจ็บเมื่อ 3 มกราคม 2563 เพื่อป้องกันโรคเครียดเฉียบพลัน และโรคบาดแผลทางใจ โดยเน้นดูแลเป็นพิเศษ 2 กลุ่มคือ เด็กที่เห็นเหตุการณ์ 4 คน และเด็กร่วมชั้นเรียนอีก 30 กว่าคน เบื้องต้นพบว่าเด็กมีอาการตกใจบ้าง จึงแนะนำให้ครูและผู้ปกครองสังเกตอาการผิดปกติ เช่น หวาดกลัว ซึมเศร้า ไม่มีสมาธิ ฝันร้าย โดยจะประเมินจิตใจซ้ำอีก 2 สัปดาห์

นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประจำเขตสุขภาพที่ 9 ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังเกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากถูกอาวุธปืนพกสั้นลั่นใส่ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาว่า จากการติดตามอาการของเด็กที่ถูกปืนลั่นใส่ล่าสุด วันนี้เด็กปลอดภัยแล้ว แต่ยังอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา โดยมีทีมของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครราชสีมา และจิตแพทย์ รพ.มหาราชฯ ดูแลด้านจิตใจรวมทั้งผู้ปกครองด้วย

นายแพทย์พงศ์เกษมกล่าวต่อว่า ในส่วนของการดูแลจิตใจเด็กนักเรียน ครูในโรงเรียนที่เกิดเหตุครั้งนี้ รวมทั้งผู้ปกครอง ได้ส่งทีมวิกฤตสุขภาพจิต หรือทีมเอ็มแคท (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team: MCATT) จาก รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 9 จ.นครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ให้การเยียวยา ปฐมพยาบาลทางใจร่วมกับทีมสุขภาพจิตของสำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อช่วยให้เด็กสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ ป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบรุนแรงทางจิตใจ โดยเฉพาะ 2 โรคที่พบบ่อยหลังเกิดเหตุการณ์วิกฤตคือโรคเครียดเฉียบพลัน  และโรคบาดแผลทางใจ หรือโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ซึ่งอาจนำมาสู่ภาวะซึมเศร้า หรือส่งผลกระทบต่อการเรียนได้ โดยมุ่งเน้นเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ 2 กลุ่ม คือ เด็กที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งมีจำนวน 4 คน และเด็กที่อยู่ในชั้นเรียนของเด็กที่บาดเจ็บ ซึ่งมี 30 กว่าคน

“ผลการตรวจประเมินสภาพจิตใจในเบื้องต้นพบว่า เด็กมีอาการตกใจอยู่บ้าง แต่ยังสามารถทำกิจกรรมในชั้นเรียนได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ทีมเอ็มแคทได้ประชุมและวางแผนร่วมกับคณะครูของโรงเรียนแห่งนี้ โดยจะทำการตรวจประเมินสภาพจิตใจซ้ำในอีก 2 สัปดาห์ ในระหว่างนี้ได้แนะนำให้โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนเด็กตามปกติ และแนะนำทั้งครู ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนให้สังเกตอาการผิดปกติของเด็ก เช่น หวาดกลัว สับสน กระวนกระวาย ฝันร้าย หรือมีภาพเหตุการณ์เดิมผุดขึ้นมาในใจ ตกใจง่าย มีอาการซึมเศร้า หรือมีอารมณ์พฤติกรรมก้าวร้าวต่างไปจากเดิม ไม่มีสมาธิในการเรียน มีปัญหาการนอน บางคนมีปัสสาวะบ่อย หากพบจะให้การดูแลจิตใจร่วมกันอย่างเต็มที่” นายแพทย์พงศ์เกษมกล่าว

Advertisement

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคเครียดเฉียบพลันจะเป็นเร็วและหายเร็ว คือมีอาการเพียงช่วงสั้นๆ ประมาณ 2 วัน นานที่สุดไม่เกิน 4 สัปดาห์ แต่โรคบาดแผลทางใจนั้นจะมีอาการปรากฏหลังเหตุการณ์ไปจนถึงประมาณ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย อาการที่สังเกตเห็นได้ง่าย เช่น นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท หงุดหงิดง่าย ฝันร้ายหรือระลึกถึงเหตุการณ์ร้ายนั้นซ้ำๆ ตกใจง่าย หรือไม่ยอมเข้าใกล้สถานที่ที่ชวนให้นึกถึงเหตุร้ายนั้นซ้ำอีก ซึ่งหากเด็กได้รับการดูแลจิตใจอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่ต้นก็จะสามารถป้องกันผลกระทบนี้ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image