ลุงขี่รถไถส่งเมียรักษามะเร็งที่โรงพยาบาล ปฏิเสธเปิดโรงแรมนอนกับหญิง ยันถูกตื๊อแต่ปฏิเสธตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้นำเรื่องราวมาโพสต์ในโลกโซเชียล ถึงชีวิตของลุงคนหนึ่ง ที่ขับรถไถนาพ่วงมาจาก อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา เพื่อนำภรรยามารักษาตัวป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และได้มากางเต็นท์นอนอยู่ข้างรถไถ บริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาล เพื่อเฝ้าภรรยาที่รักษาอาการป่วย ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 ส่งผลให้มีผู้ใจบุญที่พบเห็นข่าว พากันโอนเงินมาให้ลุงตามบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่โพสต์ไว้ในโซเชียลเป็นจำนวนมาก และต่อมาได้มีคนเห็นลุงคนดังกล่าว นำเงินที่ได้รับจากการบริจาคไปดื่มสุรา และพาหญิงขายบริการไปเปิดห้องนอนในโรงเเรมแห่งหนึ่ง กลางเมืองโคราช โดยมีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้และนำมาแชร์ต่อในโลกโซเชียล กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในขณะนี้ ล่าสุด บ่ายวันนี้ (9 มกราคม 2563)

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับคนที่ถูกเรียกว่าลุงดังกล่าว ที่บริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งพบว่ามีผู้ใจบุญนำสิ่งของและเงินมาบริจาคให้อย่างต่อเนื่อง ทราบชื่อต่อมาคือนายสมพงษ์ หวัดวาปี อายุ 44 ปี ชาว ต.บึงพะไล อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา ซึ่งยังอยู่ในอาการมึนเมา นอนอยู่บนเสื่อข้างรถไถ จากการสอบถามนายสมพงษ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้ขับรถไถพาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง มารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 แล้ว เนื่องจากตนเองเป็นคนยากจน ไม่มีเงินเหมารถมา หลังจากนั้นก็ได้ใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับการรักษา ซึ่งขณะนี้ต้องใช้การฉายรังสีให้ครบตามที่แพทย์กำหนดไว้ จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ ดังนั้นตนจึงต้องกางเต็นท์นอนเฝ้าภรรยาอยู่ที่บริเวณนี้

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ก็ได้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่ง มาพบเข้า จึงได้ถ่ายรูปตนเองและขอเลขบัญชีธนาคารไป แล้วนำไปโพสต์ลงในโลกโซเชียล ทำให้มีผู้ใจบุญแห่นำของกินของใช้มาบริจาคมากมาย รวมทั้งยังมีคนโอนเงินบริจาคเข้ามาในบัญชีธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นชื่อภรรยาของตนเองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีเงินเข้ากว่า 90,000 บาทแล้ว ส่วนที่มีคลิปหลุดออกไปในโลกโซเชียลว่าตนเองพาหญิงขายบริการไปเปิดโรงแรมนอนนั้น ตนยอมรับว่า เมื่อคืนก่อน ตนเองได้ไปเปิดโรงแรมบริเวณใกล้กับลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อนอนพักจริง ในราคาคืนละ 300 บาท เพราะตรงนี้นอนไม่ค่อยหลับ แต่ยืนยันว่าไปเปิดห้องนอนคนเดียว ไม่ได้พาหญิงขายบริการไปนอนด้วย ส่วนภาพที่เห็นหญิงคนหนึ่งอ้างว่าไปนอนกับตนมานั้น ความจริงคือเขาพยายามชวนตนไปนอนด้วย แต่ตนเองไม่เอา เพราะสงสารภรรยาที่ป่วยอยู่ ซึ่งตอนนี้บัญชีธนาคาร และบัตร ATM ก็อยู่กับภรรยาของตนเอง โดยตนเองจะขอเงินมาไว้กับตัวเพียงเล็กน้อย และยอมรับว่ามีการดื่มสุราบ้าง แต่เป็นการซื้อมาดื่มทีละกั๊กสองกั๊กเท่านั้น ไม่ได้ซื้อมาดื่มเป็นขวดๆ แต่อย่างใด ส่วนเงินทั้งหมดก็จะใช้เพื่อรักษาภรรยาของตนเองเท่านั้น ด้านนายพนม เหือนขุนทน อายุ 33 ผู้ใจบุญที่นำเงินมาบริจาครายหนึ่งกล่าวว่า ตนเองเห็นเรื่องราวที่ถูกแชร์ลงในโลกโซเชี่ยล ก็รู้สึกสงสารลุงมาก จึงได้นำเงินส่วนตัวใส่ซองมาบริจาคให้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้ลุง ส่วนเรื่องเกี่ยวกับการพาหญิงขายบริการไปเปิดโรงแรมนั้น ตนเองไม่เคยรู้ แต่ถ้าเป็นจริงก็รู้สึกเสียใจ เพราะเงินที่บริจาคไปนั้น ก็ต้องการให้นำไปช่วยเป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับภรรยาของลุง ไม่อยากให้นำไปใช้อย่างอื่นเลย

ขณะที่นายพรศักดิ์ ทศพูไชย อายุ 55 ญาติของลุง กล่าวว่า ปกติแล้วนายสมพงษ์จะไม่ใช่คนที่เหลวไหล หรือชอบเที่ยวอะไร แต่เรื่องดื่มสุรานั้นก็ยอมรับว่ามีบ้าง ซึ่งตนก็พยายามเตือนๆ ไว้เป็นประจำ เพราะนายสมพงษ์มีโรคประจำตัวอยู่ คือวัณโรคปอด หากดื่มสุราเข้าไปมากๆ ก็จะเป็นอันตรายกับสุขภาพได้ ส่วนเงินที่บริจาคนั้น ขณะนี้ทราบว่ามีเกือบ 1 แสนบาทแล้ว โดยได้นำบัญชีธนาคารและบัตร ATM ไปเก็บไว้กับภรรยาของนายสมพงษ์แล้ว หลังจากนี้ก็จะหารือกันว่า จะบริหารจัดการเงินส่วนนี้อย่างไรบ้าง อาจจะนำเงินไปทำหลังคารถไถให้ และนำไปสร้างบ้านให้ เพราะทุกวันนี้ ครอบครัวนี้ไม่มีบ้านอยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เพียงแต่ทำเป็นเพิงพักอาศัยเท่านั้น ส่วนจะปิดบัญชีรับบริจาคหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องหารือกับครอบครัวนายสมพงษ์ และแพทย์ของโรงพยาบาลมหาราชก่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image