เมื่อวันที่ 11 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า สถานการณ์ภัยแล้ง จ.พิจิตร โดยเฉพาะลุ่มน้ำยม ซึ่งในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล มีระดับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเขื่อนยางบ้านจระเข้ผอม ต.รังนก อ.สามง่าม ของชลประทาน ยังไม่สามารถพองตัวยางขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำได้ เนื่องจากตัวเขื่อนยางซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกักเก็บน้ำเกิดการชำรุดเสียหาย จึงทำให้น้ำแห้งเร็วกว่าทุกปี ทั้งนี้ แม้ชาวบ้านจะนำกระสอบทรายมากั้นบนสันเขื่อน แต่ก็ยังไม่สามารถเก็บน้ำได้ จนทำให้ปริมาณน้ำหน้าเขื่อนยางไหลลงสู่แม่น้ำยมด้านล่าง ทำให้พื้นที่ทางตอนบน โดยเฉพาะ อ.สามง่าม ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้งได้ ส่งผลให้แห้งตลอดแม่น้ำยม โดยเขื่อนยางบ้านจระเข้ผอมก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2554 งบประมาณในการก่อสร้างจำนวน 287 ล้านบาท ขนาดความสูงของตัวฝายยาง 2.50 เมตร ความยาว 74 เมตร วัตถุประสงค์ของการก่อสร้างเพื่อใช้เก็บกักสำหรับเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาที่มีจำนวนมาก รวมไปถึงรักษาระบบนิเวศ เนื่องจากแม่น้ำยมไม่มีระบบเก็บกักน้ำขนาดใหญ่เหมือนแม่น้ำสายอื่นๆ แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาตัวฝายยางชำรุดเสียหายจนไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากการฉีกขาดของตัวฝายยางที่เกิดจากกิ่งไม้และสิ่งของที่ลอยมากับน้ำชนกับตัวฝายยาง จนเกิดการเสียหายจนเป็นปัญหาในการเก็บกักน้ำที่ไม่สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ
ขณะที่ชาวนาในพื้นที่ ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน ชาวนาต้องลงทุนเจาะบ่อบาดาลบริเวณนาข้าว เพื่อสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาเลี้ยงต้นข้าว หลังประสบปัญหาภัยแล้ง แหล่งน้ำธรรมชาติแห้งจนหมด ทำให้ชาวนาต้องดิ้นรนหาแหล่งน้ำด้วยการลงทุนว่าจ้างผู้รับเหมา เป็นเงินกว่า 50,000 บาท โดยบ่อบาดาลมีความลึกลงไปในใต้ดิน 60 เมตร เพื่อสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาเป็นน้ำต้นทุน
