‘แม่น้องพลอย’ ร่ำไห้ หวังประหารชีวิต ‘ส.อ.อุ้มฆ่านั่งยาง’ หลังฎีกายืนคุก 33 ปี 11 ด.

น้องพลอย-เมื่อวันที่ 15 มกราคม นางพัชรี ปั้นทอง แม่ พร้อมนายวิชา ผลิผล พ่อน้องพลอย และทนาย ปิยะณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้ารับฟังผลคำสั่งพิพากษาศาลฎีกา กรณีสิบเอกพลกฤต วิเศษ อุ้มฆ่าเผานั่งยางน้องพลอย หรือนางสาวพลอยนรินทร์ ผลิตผล หลังจากหายตัวไป 3 ปีกว่า ก่อนจะถูกพบเป็นศพไร้ญาติในป่า โดยทางแม่น้องพลอยต้องการให้ศาลลงโทษประหารชีวิต ส.อ.พลกฤต วิเศษ ทหารคนดังกล่าว หลังฟังคำพิพากษาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ศาลกีฏาตัดสินให้ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทรณ์ จำคุก 33 ปี 11 เดือน ปรับ 1 ล้าน 5 แสนบาท

ทางด้านนางพัชรี ปั้นทอง ผู้เป็นแม่ กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าใจว่า นับแต่วันนี้ขอให้ชีวิตของแม่มีแต่ความสุข พบแต่สิ่งดีๆ สุขภาพกายใจแข็งแรง ขอให้น้องพลอยไปสู่ภพภูมิที่ดี ขอใช้ชีวิตในส่วนของแม่ทำบุญให้น้อง และก็ขอให้อย่ามีอะไรมาผูกพันกับคนร้าย ส่วนที่จะอโหสิไหม ขอเพียงว่าอย่าได้มาผูกพันกันอีกต่อไป ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม การฎีกาของแม่ ก็คือขอเพิ่มโทษ ก็คือศาลพิพากษายืน 33 ปี 11 เดือน พร้อมชดใช้ 1 ล้าน 5 แสนบาท ส่วนที่การตัดสินของศาล พึงพอใจไหม ตนรู้สึกน้อยใจในกระบวนการยุติธรรม แต่ครั้งนี้มีก็ทำใจไว้แล้วว่าผลออกมาจะต้องเป็นแบบนี้ เพราะว่าหลายๆ คดีที่ออกข่าว ฆ่าคนไม่รู้ตั้งกี่ศพ ยังไม่ประหารเลย แล้วเขาก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้รอดจากการถูกประหารชีวิต แต่อย่างไรก็ตามแม่ก็ขอน้อมเคารพต่อการตัดสินของศาล ในมุมมองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่ายังโชคดีที่จับคนร้ายมาลงโทษได้

Advertisement

ด้านทนาย ปิยะณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า คดีอุ้มฆ่าอำพรางศพผมมองว่าจริงๆ ไม่ควรเป็นเหตุให้ลดโทษ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาของศาลฎีกา ก็น้อมรับไปตามนั้น ก็เป็นจุดตัดของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ระหว่างเจอศพกับไม่เจอศพ ทำให้ไม่เจอศพง่ายกว่าไหม ก็เป็นเรื่องที่สังคมอาจจะตั้งข้อสงสัยได้ต่อไป ถ้าทำให้ไม่เจอศพและอำพรางศพโทษน้อยกว่าไม่ประหารชีวิตน้อยกว่าที่มาเจอศพแล้วมารับสารภาพที่หลังเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างนี้ต่อไปคนก็ฆ่าแล้วอำพรางศพ แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image