ผู้ว่าโคราช เร่งป้องกันแก้ไขฝุ่น PM 2.5 ตรวจควันดำ-จับลักลอบเผา-ส่อง 47 โรงงานเสี่ยง

ฝุ่นพิษต้องลด ผู้ว่าโคราชสั่งเร่งป้องกันแก้ไขฝุ่นPM 2.5อย่างเข้มข้น เน้นตรวจควันดำ จับลักลอบเผา พร้อมสอดส่อง 47 โรงงานเสี่ยง คาด คุณภาพอากาศเขตเมืองจะดีขึ้นหากทำได้ต่อเนื่องตามเป้า

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้สั่งทั้ง 32 อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองไม่เกิน 2.5 ไมครอน PM 2.5 จังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งถือเป็นอำเภอที่มีจำนวนประชากรมากเป็นลำดับที่ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีอาคารบ้านพักอาศัยอยู่กว่า 169,800 หลัง และมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นกว่า 454,000 คน ทำให้ชุมชนเมืองมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง และมีการก่อสร้างที่พักอาศัยกับโครงการขนาดใหญ่หลายจุด จึงทำให้คุณภาพอากาศในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา พบปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 มีค่าเกินมาตรฐาน เฉลี่ยอยู่ที่ 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลต่อสุขภาพ

ทางจังหวัดฯ จึงผลักดันมาตรการมากมายออกมาป้องกันแก้ไขปัญหา โดยได้ออกประกาศจังหวัดฯ ขอความร่วมมือห้ามเผาโดยเด็ดขาดในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562-2563 ทั้งกรณีการเผาในที่โล่งแจ้ง พื้นที่ริมทาง และพื้นที่ป่า รวมถึงประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอำเภอทั้ง 32 อำเภอ ให้ดำเนินมาตรการป้องกันแก้ไขไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งเรื่อง มาตรการขนส่งและการจราจร ที่จะต้องตรวจสภาพรถและตรวจวัดควันดำ โดยเขตเมือง ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดฯ นำเครื่องตรวจวัดควันดำที่มีอยู่ 1 เครื่องไปตรวจวัดควันดำรถที่สุ่มเสี่ยงปล่อยควันดำทุกๆวันที่บริเวณสะพานลอยหน้าโรงเรียนเมืองนครราชสา และบริเวณแยกราชสีมา-หนองคาย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจรถที่ปล่อยควันดำ และตรวจรถบรรทุกทุกคันที่ไม่มีสิ่งปกปิดสิ่งของที่บรรทุก และทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย

Advertisement

ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรม ให้ควบคุมการปล่อยควันเสีย โดยมี 47 โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่เป็นโรงงานเป้าหมายเสี่ยงปล่อยมลพิษในอากาศ ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด กับ กอ.รมน.จังหวัดฯ ได้เข้าไปตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2562 ถึงปัจจุบัน จำนวน 14 แห่ง พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในมาตรฐาน มี 2 แห่งที่ต้องเร่งแก้ไข ส่วนโรงงานเป้าหมายที่เหลือจะเร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2563 ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ขอให้ชุมชนได้ช่วยเป็นหูเป็นตา สังเกตโรงงานใกล้บ้านว่ามีการปล่อยมลพิษทางอากาศหรือไม่ รวมถึง ช่วยสังเกตโรงงานที่ได้รับการตรวจสอบแล้วด้วยว่า ยังปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปตรวจสอบซ้ำเพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชน

นอกจากนี้ มาตรการควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่หรือโครงการต่างๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำหนังสือกำชับไปยังไซต์งานก่อสร้างนั้นๆ ป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองที่เกิดจากการก่อสร้างและการขนส่งด้วย ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฯ ระบุว่า มี 8 โรงงานขนาดใหญ่ที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งได้กำชับให้ดำเนินการเป็นไปตามรายงานผลวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA อย่างเคร่งครัด และยังมีอีก 13 โครงการก่อสร้างที่จะต้องจัดทำรายงานEIAให้พิจารณาด้วย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ขอให้เข้าไปตรวจสอบด้วยตนเอง และดูเรื่องการฉีดล้างฝุ่นละอองบนผิวจราจรในไซต์งานก่อสร้างด้วย

Advertisement

สำหรับการควบคุมการเผาในที่โล่งแจ้งและพื้นที่การเกษตร ซึ่งมีอยู่กว่า 9 ล้านไร่ ให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกัน ติดตาม เฝ้าระวังการลักลอบเผา ควบคู่ไปกับประชาสัมพันธ์ประชาชนและเกษตรกรให้เห็นถึงประโยชน์ ข้อดี ของการไม่เผาตอซังข้าว หรือเผาไร่อ้อย หากพบพื้นที่ใดมีการลักลอบเผา ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบติดตามผู้กระทำผิดมาสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยให้สอบเจ้าของไร่หรือเจ้าของพื้นที่เกษตรที่มีการเผาก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนมาตรการรณรงค์ไม่จุดธูปเทียน พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่ส่วนราชการ อาทิ กองทัพภาคที่ 2 , ศูนย์ ปภ.เขต 5 ,สำนักงาน ปภ.จังหวัดฯ , สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ และเทศบาลนครฯ ได้ให้การสนับสนุนรถดับเพลิงและเครื่องฉีดพ่นน้ำแรงดันสูง มาฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อลดปริมาณฝุ่นมลพิษกันอย่างเข้มข้นต่อเนื่องแล้ว ซึ่งคาดว่า สถานการณ์คุณภาพอากาศในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา จะดีขึ้นตามลำดับ นายวิเชียร ฯ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image