ตาขับรถส่งน้ำแข็งพาหลาน 2 ขวบ พร้อมยาย รวม 3 คน ไปสูบปลาที่สระน้ำทุ่งนา กลับถึงบ้านขนสัมภาระลงรถ กะต้มปลาให้หลานกิน ระหว่างเคลื่อนรถมองไม่เห็นหลานที่กำลังวิ่งตาม ล้อหลังทับร่างเสียชีวิตคาที่ แม่เป็นครูฝึกสอนมาเห็นภาพเป็นลมล้มทั้งยืน ตำรวจตั้งข้อหาตาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 31 มกราคม ร.ต.อ.พรหมพิริยะ พันสีเงิน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุรถกระบะทับเด็กเสียชีวิต จึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูดสตึกเข้าไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นหน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.สตึก อ.สตึก พบชาวบ้านกำลังมุงดูศพเด็กชายวัย 2 ขวบ ที่ถูกนำมาวางบนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน โดยพบ น.ส.สุรีย์พร ชะวีรัมย์ อายุ 24 ปี แม่ของเด็ก นั่งร่ำไห้กอดร่างลูกชายแทบปิ่มขาดใจ เป็นลมล้มพับหลายครั้ง สร้างความเวทนาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว-น้ำเงิน ทะเบียน บน 4005 ยโสธร เป็นรถส่งน้ำแข็งร้านของบริษัท “กิมซุนไอช์” ซึ่งเป็นรถที่ทับร่างเด็กเสียชีวิต จอดอยู่บนถนนคอนกรีตภายในซอยหน้าบ้าน
ส่วนผู้ที่ขับรถทับร่างเด็กคือ นายสมร ชะวีรัมย์ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นพนักงานขับรถบรรทุกน้ำแข็งและเป็นตาของน้องแมนยู ที่เสียชีวิต ยืนรอให้การกับตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนนายสมร ตาของเด็ก ให้การกับตำรวจว่า มีอาชีพขับรถส่งน้ำแข็งให้กับบริษัทมานานกว่า 7 ปี ช่วงสายของวันนี้ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถส่งน้ำแข็งตามปกติในช่วงพักเที่ยง ได้ขับรถมาพักที่บ้านจึงรับหลานและภรรยาที่อยู่บ้านไปจับปลาที่มีญาติสูบสระไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากจับปลาได้นำอุปกรณ์ใส่ท้ายรถ พร้อมปลาที่จับได้ขับรถกลับมาถึงบ้าน ก็เปิดประตูให้หลานลงจากรถ หลังจากนำอุปกรณ์ทั้งหมดลงจากรถแล้ว ได้ขึ้นขับรถจะเคลื่อนไปจอดด้านหน้าเพื่อไม่ให้เกะกะ เมื่อออกรถไปเพียงเล็กน้อยเหมือนรถยนต์เหยียบสิ่งของแต่ไม่เอะใจอะไร พอดับเครื่องรถก็ได้ยินเสียงภรรยาร้องตะโกนลั่นว่าขับรถทับหลาน เมื่อเหลือบมองเห็นหลานน้อยนอนคว่ำอยู่จึงรีบนำหลานส่งโรงพยาบาลสตึก แต่ไม่ทัน หลานได้เสียชีวิตระหว่างทาง
“รู้สึกเสียใจมากไม่นึกไม่ฝันจะมาเกิดเหตุการณ์กับหลานน้อยด้วยตนเอง”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
ด้านนางสำราญ ลำโกณา อายุ 48 ปี ยายของเด็กชาย เผยว่า หลังจากขนของลงจากรถก็เห็นหลานวิ่งเดินเล่นตามปกติ ช่วงเกิดเหตุตนเห็นหลานวิ่งตามรถตา ก่อนรถจะเบียดหลานล้มลงแล้วเหยียบเด็กต่อหน้า สงสารลูกสาวที่เพิ่งมีลูกชายเพียงคนเดียว และอีกไม่นานก็จะเป็นครู เพราะเรียนเป็นปีสุดท้าย กำลังฝึกสอนที่โรงเรียนสตึก จะสิ้นสุดฝึกสอนเดือนมีนาคมนี้ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบไม่คาดคิดดังกล่าว
