เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกอบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ 25 อำเภอ ว่า ได้เปิด
ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงใหม่ มี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานศูนย์ โดยประชุมและสั่งการแก้ปัญหาเกือบทุกวัน เพื่อค้นหาจุดเกิดความร้อนหรือฮอตสปอตจากแผนที่ดาวเทียม ในเขตอุทยาน ป่าสงวน และพื้นที่ทำการเกษตร เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟป่า เพื่อป้องก้นการลุกลามขยายวงกว้าง
“ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการจับปรับผู้เผาเศษวัชพืช 3-4 ราย อยู่ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ 1 ราย พร้อมใช้กล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) จำนวน 1,000 จุด เฝ้าระวังและแจ้งเตือน หากพบการเผาในพื้นที่สาธารณะในเขตชุมชน ส่วนพื้นที่อำเภอรอบนอกได้ประสานชุดเสือไฟ โดยจัดสรรงบจัดซื้อเครื่องเป่าลม เพื่อทำแนวกันไฟและดับไฟป่า พร้อมสนับสนุนท้องถิ่นและท้องที่ อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่ จัดชุดเฝ้าระวังและลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยง หรือเกิดไฟป่าซ้ำซาก ทั้งเสบียงอาหารและน้ำดื่ม เพื่อสร้างความขวัญกำลังใจทางหนึ่ง” นายบุญเลิศ กล่าว
ส่วนภาวะภัยแล้ง นายบุญเลิศ กล่าวว่า ได้มีแผนทำฝายชะลอน้ำ เพื่อสร้างความชุ่มชื้น จำนวน 10,000 ฝาย โดยสร้างฝายดังกล่าวไปแล้ว 2,000 ฝาย หรือร้อยละ 20 ของฝายทั้งหมด หลังสร้างไปแล้ว 2 สัปดาห์ พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีความชุ่มชื้นเพิ่ม พร้อมกับสร้างป่าเปียก โดยใช้แนวคิดปราชญ์ชนเผ่าปากะญอ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นปลูกกล้วย ไม้ไผ่ ตามลำห้วย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เป็นแนวกันไฟอีกชั้นหนึ่ง โดยสร้างถังเก็บน้ำสูง 5 ชั้น เพื่อปล่อยน้ำไปตามร่องน้ำป่าเปียก ทั้งนี้ได้นำร่องสร้างป่าเปียก รวม 10 แห่งแล้ว เพื่อให้พื้นที่ป่าดังกล่าวเติบโตแบบยั่งยืน
“ได้สร้างและพัฒนาอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ความจุไม่เกิน 4,000-5,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพื่อส่งน้ำเข้าสู่พื้นที่เกษตรของหมู่บ้าน โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจออกแบบแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ อ.จอมทอง อ.ฮอด อ.ดอยเต่า อ.อมก๋อย อ.แม่แจ่ม อ.กัลยาณิวัฒนา ซึ่งเป็นพื้นที่สายใต้ที่ประสบปัญหาภัยแล้งมากที่สุด หากพื้นที่ไหนประสบภัยแล้งสามารถประสานสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั้ง 42 เขต เพื่อส่งเครื่องจักรเข้าไปขุดลอกกักเก็บน้ำ เจาะบ่อดาล เพื่อเป็นน้ำอุปโภคบริโภค โดยตั้งงบให้เอกชนดำเนินการขุดเจาะกว่า 100 แห่ง” นายบุญเลิศ กล่าว
นายบุญเลิศ กล่าวถึงมาตรการป้องกันแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ตามแหล่งท่องเที่ยวและเขตชุมชนเมือง ว่า ได้ตั้งงบประมาณซื้อหน้ากากอนามัยแจกแล้ว เบื้องต้น จำนวน 100,000 ชิ้น แต่ไม่สามารถจัดซื้อได้ เพราะสินค้าหมดตลาด ไม่มีของขาย ส่วนมาตรการเฝ้าระวัง และคัดกรองผู้เดินทางเข้าสู่เชียงใหม่ อาทิ สนามบิน
สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง อาเขต ทุกภาคส่วนดำเนินการอย่างเข้มข้นตามมาตรการขององค์การอนามัยโลก เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวเอาอยู่ และส่งผลกระทบต่อท่องเที่ยวน้อยที่สุด พร้อมประสานศูนย์การค้าที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมช้อปปิ้ง 5 แห่ง ให้ดูแลความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคทุกชั่วโมง อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ฝากชาวเชียงใหม่ เป็นเจ้าบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดี ไม่แสดงความรังเกียจ หรือติดป้ายไม่ต้อนรับ ที่สำคัญควรให้กำลังใจ เพื่อแสดงน้ำใจและความห่วงใยแก่เพื่อนร่วมโลก
