วันที่ 1 กรกฎาคม นายสิทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์ปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่จ.นครราชสีมา พบว่า ในพื้นที่เหนือเขื่อนลำตะคองมีปริมาณฝนตกลงมาเมื่อวานนี้(30 มิ.ย.) วัดได้ 6.2 มิลลิเมตร ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนประมาณ 4 หมื่น 2 พันลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้เขื่อนลำตะคอง ล่าสุดมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้เพียง 39.786 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ ของความจุกักเก็บทั้งสิ้น 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณฝนส่วนใหญ่จะตกในพื้นที่ท้ายเขื่อน ดังนั้นทำให้ทางเขื่อนลำตะคอง มีความจำเป็นที่จะต้องสั่งหยุดจัดส่งน้ำออกจากเขื่อน เป็นวันที่ 2 จากเดิมที่เคยจัดส่งออกวันละ 345,600 ลูกบาศก์เมตร เนื่องจากในพื้นที่ท้ายเขื่อนตามแหล่งน้ำต่างๆ และตามลำคลองต่างๆ ยังคงมีปริมาณน้ำมากจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา
“การปรับลดปริมาณน้ำที่ส่งออกมาจากเขื่อน อยู่กับปริมาณน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อนด้วยเช่นกันว่าจะปรับลดมากน้อยเพียงใด ก็เพื่อให้มีความสมดุล อีกทั้งก็เพื่อรักษาปริมาณน้ำต้นทุนภายในเขื่อนเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยคาดว่าปริมาณน้ำที่เหลืออยู่นั้นจะเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ แต่อย่างไรก็ตามทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม จนถึงเดือนตุลาคม ในพื้นที่จะมีปริมาณฝนตกมากว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าในช่วงนั้นแต่ละเขื่อนก็จะมีปริมาณน้ำกักเก็บเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายสุทธิโรจน์ กล่าว
ส่วนสถานการณ์ปริมาณน้ำภายในเขื่อนขนาดกลางและขนาดใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ล่าสดมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้อยู่ที่ 207.53 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 17.97 เปอร์เซ็นต์ จากความจุกักเก็บ 1216.75 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากเทียบกันช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (1 ก.ค.59) มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้อยู่ที่ 109.34 ล้านลูกบาศก์เมตร
