เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่เกิดเหตุจ่าทหารคลั่งกราดยิงเจ้าหน้าที่และประชาชน ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง ว่า วันนี้ยังคงมีประชาชน รวมถึง ผู้สื่อข่าวจากสำนักต่างๆ เดินทางเข้ามาดูและเก็บภาพสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ที่วัด
พระมนัสวิน ธีรังกุโล อายุ 24 ปี พระลูกวัด วัดป่าศรัทธารวม ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า คนร้ายขับรถเข้ามาทางประตูหลังวัด โดยจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าออกเฉพาะในวันพระเท่านั้น ซึ่งวันเกิดเหตุตรงกับวันมาฆบูชาพอดี โดยคนร้ายได้ขับรถฮัมวี่ทหาร ผ่านตนขณะกำลังกวาดใบไม้อยู่ริมถนนในวัด แล้วไปจอดอยู่ริมถนนภายในวัด ซึ่งไม่ห่างจากที่ยืนอยู่มากนัก
“จากนั้น ได้เห็นคนร้ายลงมาจากรถ แล้วบรรจุกระสุนปืน ซึ่งตอนนั้นคนร้ายก็มองเห็น แต่ยังคงบรรจุกระสุนต่อไป จึงสงสัยว่าทหารมายิงอะไรภายในวัด หรือว่ามาดักซุ่มจับใคร แต่ก็ไม่ได้เข้าไปสอบถามอะไร ยังคงกวาดวัดต่อไป จากนั้นไม่กี่นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดในบริเวณใกล้ๆ จึงวิ่งไปหลบอยู่ห่างๆ และก็เห็นว่า คนร้ายได้กระหน่ำยิงคนในรถกระบะสีบรอนซ์ทอง จนรถพุ่งชนต้นไม้ริมทาง ต่อมา ก็เห็นคนร้ายกระหน่ำยิงนักเรียนชาย ร.ร.บุญวัฒนา ที่ขับรถจักรยานยนต์ผ่านจะออกไปประตูหลังวัด เพื่อจะกลับบ้าน จนเด็กนักเรียนล้มเสียชีวิตคาที่ ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่นาที ก็มีรถฟอร์จูนเนอร์อีกคัน ขับผ่านเข้ามายังจุดเกิดเหตุพอดี คนร้ายก็กระหน่ำยิงคนขับและผู้โดยสาร รวม 5 คน จนเสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บอีก 1 คน ไม่นานก็มีรถจักรยานนยต์ขับผ่านเข้ามาทางหลังวัดอีกคัน ก็ถูกคนร้ายจ่อยิงอีก ทำให้มีผู้เสียชีวิตภายในวัดมากถึง 9 ราย ซึ่งหลังก่อเหตุก่อน คนร้ายได้ขับรถฮัมวี่ขับหลบหนีออกไปทางประตูหน้าวัด แล้วมุ่งตรงไปก่อเหตุที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล” พระลูกวัด กล่าว
พระมนัสวิน ธีรังกุโล กล่าวอีกว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ มองว่าเป็นการกระทำวิบากกรรมครั้งใหญ่ ซึ่งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บได้เคยทำร่วมกันมา ถือเป็นการกระทำผิดร้ายแรงทางพุทธศาสนา เพราะผิดศีลฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก่อเหตุในเขตวัด ซึ่งถือเป็นเขตอภัยทาน อีกทั้งเป็นวัดมาฆบูชา วัดพระใหญ่ของชาวพุทธทั่วโลก และทางด้านมนุษยธรรม ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในบ้านพุทธเมืองพุธ การกราดยิงผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู่เรื่องราว ถือเป็นวิบากกรรมติดตัว ซึ่งทางวัดจะจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตในวันพระหน้าที่จะถึงนี้ ส่วนสถานที่เกิดเหตุยังปล่อยเอาไว้ตามเดิม เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเพิ่มเติม
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
