ป่าไม้-ส.ป.ก.ตรวจพื้นที่ฟาร์มไก่ เดินหน้าเต็มสูบ-แจ้งความเอาผิด “ปารีณา”รุกป่า

เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ นายธวัชชัย ลัดกรูด ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดิน น.ส.ปารีณา นายจุมพฎ ชอบธรรม ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย นายพัฒนะ ศิริมัย ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ราชบุรี สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบที่ดินของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บริเวณหมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ภายหลัง คณะกรรมการกฤษฎีกา ทำหนังสือตอบข้อหารือของอธิบดีกรมป่าไม้ เกี่ยวกับการดำเนินการในที่ดิน ส.ป.ก. 682 ไร่ ที่น.ส.ปารีณาครอบครอง โดยตีความชัดเจนว่าที่ ส.ป.ก.ของ น.ส.ปารีณา ที่เขาสนฟาร์ม มีสถานะเป็นป่าสงวนแห่งชาติกว่า 46 ไร่ และครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก. 682 ไร่ จากการปลูกสร้างโรงเรือน ทำฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม

ก่อนลงพื้นที่มีการประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)รางบัว อ.จอมบึง เพื่อประชุมหารือใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนลงพื้นที่ฟาร์มไก่ ซึ่งเป็นบริเวณทางเขาฟาร์มริมถนนสายราชบุรี – ชัฏป่าหวาย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
 

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น เดินนำเจ้าหน้าที่ไปชี้แนวเขตพื้นที่ที่แจ้งความไว้ที่ สภ.จอมบึง บริเวณริมถนนสายดังกล่าวที่ทอดยาวเป็นที่ดินถือครองของ น.ส.ปารีณา ระหว่างทางพบป้ายประกาศของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรี ระบุข้อความว่า “ ที่ดินแปลงนี้เป็นทรัพย์สินของทางราชการ ในความดูแลของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ห้ามบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ดิน ห้ามขนย้ายวัสดุสิ่งของ หรือทรัพย์สินใดๆออกนอกบริเวณพื้นที่ ยกเว้นเป็นผู้ได้รับอนุญาตจาก ส.ป.ก.ก่อนเท่านั้น ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด”

นายวีระ กล่าวว่า ฝั่งขวาเป็นของชาวบ้าน และเชื่อว่าชาวบ้านก็บุกรุก แต่ต้องดูว่าชาวบ้านที่ถือครองคนละ 20 – 30 ไร่ ทาง ส.ป.ก.จะให้สิทธิ์เขาหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านมีสิทธิ์เพราะทำเกษตรกรรมไม่ได้ครอบครองพื้นที่มากมาย ส่วนที่มีการสร้างบ้านพักเป็นคนของน.ส.ปารีณา ส.ป.ก.ปล่อยให้มาสร้างได้อย่างไร มีการขุดสระกั้นน้ำไว้ใช้ ส่วนป้าย ส.ป.ก. เพิ่งเห็นวันนี้เป็นป้ายใหม่ส.ป.ก.อย่ามาโกหก ให้ดูหลักฐานสภาพป้ายยังใหม่ หากเจ้าหน้าที่รัฐยืนยัน ตนจะไปแจ้งความให้ตำรวจ สภ.จอมบึง มาตรวจสอบป้ายด้วย

Advertisement

 

พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ กล่าวว่า มาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อให้ได้อาณาเขตของการถูกยึดถือครอบครอง เพื่อคำนวณค่าเสียหายในการส่งศาลพิจารณา เพราะมีการกล่าวโทษและต้องมีค่าเสียหายที่ต้องชดใช้ เป็นการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริง ได้ติดต่อคนถือครองที่ดินด้วย แต่ไม่รู้จะมาหรือไม่ จึงเชิญนายวีระ มานำชี้เพื่อดูเนื้อที่ และนายวีระยอมรับได้เท่าไรในการตรวจสอบวันนี้

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม กล่าวว่า หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ลงพื้นที่ทำงานสบายใจมากขึ้น แต่เพื่อความรัดกุมในการดำเนินการ ได้ขอหมายค้นเพื่อเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ด้วย โดยวันนี้ถือว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นคดีความแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอรัปชัน เคยแจ้งความดำเนินคดี การเข้ามาในพื้นที่ถือว่ามีความชอบธรรม กรมป่าไม้เข้าไปในฐานะ ผู้มีอำนาจป้องกัน ปราบปราม จับกุมผู้บุกรุก ส่วนส.ป.ก.เข้าไปในฐานะเจ้าของพื้นที่เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บุกรุก ซึ่งเมื่อตรวจสอบ รังวัด และทำบันทึกเสร็จเรียบร้อย จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณาทันที

เมื่อถามว่า คดีความก่อนหน้านี้ ที่น.ส.ปารีณา เคยแจ้งความไว้ว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้บุกรุกพื้นที่นั้น จะยังคงมีต่อไปหรือไม่ นายชีวะภาพ กล่าวว่า คดีคงดำเนินไป แต่เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาเช่นนี้ การทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งป่าไม้ และ ส.ป.ก.จะทำงานได้ง่ายขึ้น คดีที่เคยถูกแจ้งความ ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ

“หากการตรวจสอบวันนี้ พบการทับซ้อนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หรือ ป่าไม้ 2484 จะดำเนินการแจ้งความใหม่ หรืออาจแจ้งเพิ่มเติมจาก 46 ไร่ ต้องดูรายละเอียดการครอบครอง ต้องดูก่อนว่าใครเป็นผู้ครอบครอง และมีพื้นที่เท่าใด เนื่องจากจำนวนพื้นที่ตอนแรกคำนวณจากภาพถ่ายทางอากาศ แต่มีข้อมูลอยู่ระดับหนึ่งแล้ว ช่วงเวลาที่กรมป่าไม้รอคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา ได้เดินหน้าตรวจสอบข้อมูลอยู่ และรู้แล้วว่าเป็นของใคร ส่วนการแจ้งความ ต้องระบุจำนวนพื้นที่ให้ชัดเจน เท่าที่พิสูจน์ได้ว่ามีการครอบครอง และใครเป็นผู้ครอบครอง นอกจากเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังมีเรื่องการแจ้งครอบครอง มีเลขที่บ้าน ไฟฟ้ามีการเก็บรายละเอียดไว้แล้ว

อธิบดีกรมป่าไม้บอกว่า วันนี้ถ้าพบการกระทำผิดชัดเจน เอาให้จบวันนี้ ให้สิ้นกระแส ต้องเข้าใจเจ้าหน้าที่ด้วยเพราะก่อนจะทำอะไรต้องละเอียดอ่อน เพราะที่นี่เจ้าหน้าที่โดนฟ้องไปแล้ว 1 คดี หากทำอะไรไม่รัดกุมคงไม่ได้ ต้องทำเป็นรูปแบบ โดยชุดพยัคฆ์ไพรเป็นชุดที่บังคับใช้กฎหมาย จะรอฟังจากฝ่ายกฎหมายสรุปมาว่าตรวจสอบได้ ถ้าซ้อนทับป่าสงวน ป่าไม้ 2484 ก็ดำเนินคดีได้เลย วันนี้เราจึงมารอชุดปฏิบัติการทำงาน แต่วันนี้ได้รับคำตอบแล้วว่า มันยังคงความเป็นป่าตามกฎหมาย บุกรุกเท่าไหร่ก็ต้องแจ้งความเท่านั้น การตรวจสอบวันนี้ทำงานหลายฝ่าย มีทั้งชุดพยัคฆ์ไพรมาร่วมด้วย มีการสังเกตของภาคเอกชนก็ดูอยู่ มีนายวีระ สมความคิด เลขา คปต. คอยดูและต้องทำอย่างรัดกุม ตรงไปตรงมา ไปจับเกินพื้นที่ครอบครองก็ไม่เป็นผลดี ต้องเอาตามข้อเท็จจริงที่มีการบุกรุก

สำหรับบทอัตราลงโทษหนัก เพราะว่า พ.ร.บ.ที่ปรับใหม่ เพราะถ้าเกินเป็นคดีรายใหญ่ขึ้นไปจะหนัก ทั้งโทษจำคุก โทษปรับสูง ระดับเกิน 25 ไร่ 50 ไร่ 100 ไร่ ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีการครอบครองจริงมีเจตนาและไม่เจตนา ต้องเข้าใจ บางคนบุกรุกจริงแต่เขาไม่เจตนาก็อาจจะได้รับการพิจารณาลดหย่อนผ่อนโทษจากกระบวนการยุติธรรมจากศาล วันนี้จึงมาดูว่าใครครอบครองเชื่อมโยงได้ขนาดไหน พื้นที่เท่าไหร่ ให้มั่นใจ เพราะการแจ้งความต้องระบุชื่อใครครอบครอง ต้องอยู่ในกระบวนการที่ให้ความยุติธรรมแก่ทุกคน ส่วนวันนี้ทุกอย่างประกอบกันค่อนข้างรัดกุมแล้ว ทีมงานที่มาเป็นคณะทำงาน ไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว วมี บก.ปทส. ชุดพยัคฆ์ไพร ส.ป.ก. กรมป่าไม้ ฝ่ายปกครอง และหน่วยร่วมกัน จะต้องทำให้สิ้นกระแสและชัดเจน”

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า วันนี้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และนายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6(อุดรธานี) กรมป่าไม้ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดิน น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ส.ป.ก. เพื่อตรวจสอบรังวัดที่ดินที่ น.ส.ปารีณาครอบครองจำนวน 682 ไร่ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ครอบครอง คือน.ส.ปารีณา ไม่ได้มาชี้นำเพื่อให้เจ้าหน้าที่รังวัด เจ้าหน้าที่จึงต้องสำรวจ พิสูจน์ วัดพิกัดเอง อาจจะต้องใช้เวลา ซึ่งตนสั่งการเจ้าหน้าที่แล้วว่าให้ทำอย่างละเอียด โดยการรังวัดครั้งนี้จะทำเฉพาะพื้นที่ที่มีการใช้ประโยชนฺจริงๆเท่านั้น ซึ่งอาจจะมาก หรือน้อยกว่า จำนวน 682 ไร่ ไม่มากนัก โดยอาจจะใช้เวลาในการรังวัดราวๆ 1-2 วัน ซึ่งเมื่อรังวัดเสร็จให้ประสานกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ แจ้งความดำเนินคดีได้เลย ตามกฏหมาย 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ที่ดิน พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ

“หลังจากนี้เราก็จะเดินหน้าดำเนินคดีเต็มรูปแบบ ที่ผ่านมาอาจไม่ถูกใจหลายๆคน แต่กรมป่าไม้ยืนยันว่า เราต้องดำเนินการทุกอย่างอย่างรอบคอบถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างใดๆ ซึ่งเมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาแล้ว ต่อไปนี้กรมป่าไม้จะดำเนินการเต็มที่ ส่วนผู้ครอบครอง จะยื่นคำแย้ง หรือมีหลักฐานอะไรแสดงความชอบธรรมเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อไปทางพนักงานสอบสวนได้ “นายอรรถพล กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image