เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่13 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งที่หมู่บ้านมาบเหียง หมู่ 10 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านพากันแตกตื่นกับโขลงช้างป่า รวมจำนวนมากกว่า 30 ตัว กระจายเดินเกลื่อน อยู่ในสวนมะม่วง-แหล่งน้ำ และรอบหมู่บ้าน
ผู้สื่อข่าวจึงรีบลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่สวนมะม่วงของนายสงคราม ธรรมมะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ามีโขลงช้างป่าจำนวนดังกล่าวพากันมาหากินอาหาร หักโค่นกิ่งมะม่วงในสวน มากกว่า 20 ต้น ทำให้ได้รับความเสียหาย
นางศิราณี ธรรมมะ ภรรยาผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า “เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกน้องออกมาจะเก็บผลมะม่วง ถึงกับตกใจเมื่อเข้ามาในป่ามะม่วงเห็นโขลงช้างป่า กำลังพากันยืนเป็นกลุ่มๆ หักมะม่วงกิน บางตัวเฝ้าระวังอยู่รอบนอก ส่งเสียงร้อง จึงรีบกลับไปบอกผู้ใหญ่บ้าน แจ้งให้ลูกบ้านทราบ และช่วยกันจุดปะทัดขับไล่ช้างป่าโขลงดังกล่าว ออกจากหมู่บ้าน ตรวจสอบพบ ค่าเสียหายหลายหมื่นบาท” นางศิราณีกล่าว
ด้านชาวบ้านอีกคนเล่าว่า ได้ยินเสียงโขลงช้างป่าร้อง บริเวณด้านหลังโรงเรียนบ้านมาบเหียง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จ.ปราจีนบุรี จึงออกมาดู พบช้างฝูงใหญ่ ถูกขับไล่ออกจากหลังโรงเรียน และชาวบ้านอีกหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นและได้ยินเสียงเมื่อรุ่งสาง-เช้าตรู่ที่ผ่านมา และโขลงช้างป่าพากันยกขบวนเดินผ่านหน้าบ้าน 3 ตัว โดยน่าจะเดินตามฝูงใหญ่
ทั้งนี้พบว่า ช้างฝูงดังกล่าวไม่มีท่าทางดุร้าย พูดจาบอกให้ไปก็เดินจากไปแต่โดยดี ล่าสุดขณะนี้ยังไม่มีใครพบเห็นโขลงช้างป่าหลบอยู่ที่ใด คาดว่าอาจหลบในไร่อ้อย, ไร่สับปะรด ,ไร่มันสำปะหลัง แห่งใดแห่งหนึ่งในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม โขลงช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์เขาอ่างฤาไน อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา มักเดินจาก จ.ฉะเชิงเทรา ข้ามฝั่งมาหากิน ที่ อ.ศรีมหาโพธิ , อ.กบินทร์บุรี ที่เป็นพื้นที่รอยต่อ แม้จะไกลกันกว่านับ 100 กม.ก็ตาม คาดว่าเนื่องจากจำนวนประชากรช้างป่าที่เพิ่มมากขึ้น ในช่วงหน้าแล้งขาดแหล่งน้ำ-อาหาร จึงเดินทางมาหากินถึง จ.ปราจีนบุรี ที่มีแหล่งน้ำ-อาหารชุกชุมสมบูรณ์
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
