วันที่ 13 กุมภาพันธ์ นางวริษฐา วรรณโสภา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 406 หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวเตือนประชาชนพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด ให้ระมัดระวังตัว หลังจากที่ตนเองถูกโจรเมียนมา ทำทีเข้าไปซื้อสินค้าในร้าน และพูดจาภาษาอังกฤษเพื่อซื้อของ และแกล้งถามหลายๆอย่าง แล้วฉวยโอกาสชิงโทรศัพท์มือถือ และวิ่งหนีไป โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ในระหว่างเกิดเหตุการณ์ คนร้ายยังพยายามทำร้ายตนเอง เมื่อไม่ยอม และขัดขวางไม่ให้เอาโทรศัพท์มือถือไป และพยายามตะโกนร้องว่า ขโมย ๆ ดังๆ ทำให้คนร้ายรีบวิ่งหลบหนีไป พร้อมกับโทรศัพท์มือถือของตนไปได้ 1 เครื่อง
นางวริษฐา กล่าวว่า ในระหว่างที่ตนเองร้องเสียงดังๆขโมยๆนั้น สามีได้วิ่งออกมาจากหลังร้าน และติดตามไป แต่โจรร่างใหญ่ สูงกว่า วิงไว และข้ามไปเกาะกลางแม่น้ำเมยใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 บ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด จนไม่สามารถติดตามได้ โดยร้านตนอยู่ห่างจากเกาะกลางน้ำเมย 700 เมตรเท่านั้น
ผู้สื่อข่างรายงานว่า ล่าสุด ทางร้านขายของชำได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่สอด ในการติดตามคนร้ายแล้ว และทราบว่า เป็นชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่พื้นที่เกาะสาธารณะใต้สะพานมิตรภาพไทย –เมียนมา ซึ่งมักเข้ามาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านริมเมยตลอด โดยทางตำรวจได้ประสานกับฝ่ายทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอดในการติดตามคนร้าย เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดน และมีข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่ และเกาะดังกล่าว เป็นพื้นที่ใช้ร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งการจะดำเนินการใดๆนั้นต้องได้รับความชอบร่วมกันระหว่างประเทศไทย กับประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
