จากกรณีที่พ่อแม่ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า บุตรสาวถูกครูชายคนหนึ่งซึ่งเป็นครูสอนดนตรีของโรงเรียนเดียวกัน ล่อลวงไปข่มขืนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ จากนั้นพ่อแม่ของ ด.ญ.เอ ได้พาบุตรสาวเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ไพรัตน์ คงเอียง พนักงานสอบสวนเวร สภ.ปะทิว เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่มีการสอบสวนและตรวจสอบรีสอร์ตที่ ด.ญ.เอ ให้การว่าถูกล่อลวงไปเพื่อหาพยานหลักฐาน พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์เข้า-ออกรีสอร์ต ส่วนครูที่ถูกกล่าวหาพร้อมญาติๆ ก็ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยปฏิเสธข้อกล่าวหา และยืนยันความบริสุทธิ์ตามที่มีการเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 พ.ต.อ.ไพรัตน์ เจ้าของคดี ได้นำตัว “ครูนิว” (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ครูสอนดนตรีที่ถูกกล่าวหา เดินทางเข้าฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดชุมพร โดยมีบรรดาญาติพี่น้องและครอบครัวของผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาให้กำลังใจ แต่พนักงานสอบสวนขอความร่วมมือสื่อมวลชนมิให้ถ่ายภาพ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งพ่อแม่ของ ด.ญ.เอ ได้ร้องต่อพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการประกันตัวครูนิว เนื่องจากเกรงว่าครูนิวอาจจะออกมายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในเรื่องนี้
นางสาววัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของ พม.จ.ชุมพร ร่วมกับ ผู้บริหารโรงเรียนที่ครูนิวสังกัด ตัวแทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 11 (ชุมพร-สุราษฎร์ธานี) เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจครอบครัวของ ด.ญ.เอ พร้อมทั้งมอบเงินเยียวยาแก่ครอบครัวของ ด.ญ.เอ ตามกฎหมาย
“สภาพจิตใจของ ด.ญ.เอ และครอบครัวกำลังย่ำแย่มาก ขณะที่อยู่ในช่วงใกล้สอบด้วย พม.จ.ชุมพร จึงขอให้ทางโรงเรียนนำข้อสอบมาให้ ด.ญ.สอบที่บ้าน โดยมีครูคุมสอบเป็นกรณีพิเศษ เพราะหากจะให้เด็กไปสอบที่โรงเรียนคงไม่เหมาะ เนื่องจากยังมีเพื่อนๆ ของ ด.ญ.เอ หลายคนไม่เชื่อว่า ด.ญ.เอ ถูกครูนิวข่มขืนจริงๆ และยังมีการทักแชตต่อว่าหรือล้อเลียน ด.ญ.เอ ทางเฟซบุ๊กและไลน์อยู่ หลังการสอบเสร็จสิ้น ป้าของ ด.ญ.เอก็จะรับ ด.ญ.เอไปอยู่ จ.อุบลราชธานี และหาโรงเรียนให้เรียนต่อที่นั่น ซึ่ง พม.จ.ชุมพร ได้ประสานกับ พม.จ.อุบลราชธานี เพื่อขอให้ช่วยดูแลและเยียวยา ด.ญ.เอเรียบร้อยแล้ว” นางสาววัลภากล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
