เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ห้องคุ้มครองสิทธิ ศาลจังหวัดยโสธร ศาลนัดไกล่เกลี่ย คดีหมายเลขดำที่ อ.1287/2562 ที่พนักงานอัยการจังหวัดยโสธร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางรุ่งรัชนี หรือแม่กุ้ง ไชยวิชิต อายุ 69 ปี, นางศิริพร หรือคุณนายถิง โคตรสมบัติ อายุ 31 ปี, นายเทพพิทักษ์ โคตรสมบัติ อายุ 48 ปี กำนันตำบลน้ำคำใหญ่, นางมังกร วงค์สุวรรณ อายุ 52 ปี แพทย์ประจำ ต.น้ำคำใหญ่, นายวินัย เศรษฐะ อายุ 42 ปี, นางนภัสวรรณ ศรีข้อ อายุ 60 ปี ประธานชุมชนเปี่ยมสุข และนางสมฤดี เอื้อสามาลย์ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านห้องพอง ต.น้ำคำใหญ่ จำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานฉ้อโกง
คำฟ้องสรุปว่าเมื่อปลายเดือนกันยายน-ตุลาคม 2562 ได้เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงบางพื้นที่ในเขตจังหวัดยโสธร เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้เสียหายได้ทราบข่าวการเกิดอุทกภัย จึงหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเมื่อครั้งวันที่ 20 ตุลาคม 2562 เวลากลางวัน จำเลยทั้ง 7 กับพวกอีก 67 คน มีเจตนาทุจริต ได้ร่วมกันหลอกลวงนายบิณฑ์ ผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงอันควรบอกให้แจ้ง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและทรัพย์สินแก่จำเลยทั้งเจ็ดกับพวกและบุคคลที่สามเป็นเงินทั้งสิ้น 340,000 บาท อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยด้วย
โดยวันนี้พนักงานอัยการโจทก์เดินทางมาศาลพร้อม บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ขณะที่ฝ่ายจำเลยทั้งหมดเดินทางมาพร้อมทนายความ โดยมีนายนพดล ไกษร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยโสธร เข้าร่วมไกล่เกลี่ยโดย ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง การเจรจาไกล่เกลี่ยเป็นผลสำเร็จ ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ โดยบิณฑ์ แถลงไม่ติดใจเอาความและขอถอนฟ้องคดี จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
จากนั้น บิณฑ์ นำฝั่งคู่ความมาจุดธูปเทียนสาบานต่อหน้าพระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลจังหวัดยโสธร ว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์ให้ชาวบ้านที่ข้าพเจ้าได้เป็นผู้นำให้ได้รับเงินความช่วยเหลือจาก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ชาวบ้านได้รับเงินช่วยเหลือ โดยตนทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว หากข้าพเจ้าทำไปเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัวขอให้ข้าพเจ้าไม่ประสบผลสำเร็จในการทำธุรกิจใดๆ ทั้งสิ้น
บิณฑ์กล่าวว่า เดินทางมาไกล่เกลี่ยกรณีฉ้อโกงเงินน้ำท่วมที่ยื่นฟ้องแม่กุ้งพร้อมพวก ซึ่งขออนุญาตเอ่ยชื่อแม่กุ้ง ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในจังหวัดยโสธรได้เข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งที่พัก และมีกรณีที่นำผู้ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ในการรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม มารับเงินเกือบ 100 คน ตนรู้สึกว่าพี่น้องประชาชนอาจเข้าใจผิดตนว่าเป็นผู้ร่วมรู้เห็นในครั้งนี้ จึงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากนั้นแม่กุ้งได้ฟ้องตนกลับในข้อหาหมิ่นประมาท วันนี้จึงมาไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งการไกล่เกลี่ย ผู้นำชุมชนรับว่าต้องการรักษาผลประโยชน์ให้ลูกบ้านที่ด้อยโอกาส
“วันนี้มีชาวบ้านนำเงินมาคืน 18 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 90,000 บาท บางรายไม่สามารถหาเงินมาคืนให้ได้เพราะไม่มีงาน จึงเห็นใจและยกผลประโยชน์เหล่านั้นให้ชาวบ้านไป ส่วนผู้นำชุมชนพูดให้ผมเข้าใจแล้วว่า การกระทำดังกล่าวผู้นำต้องการรักษาผลประโยชน์ให้ชาวบ้าน ไม่ได้นำผลประโยชน์เข้าตัวเอง ส่วนแม่กุ้งรับว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเป็นการเข้าใจผิดจึงมาขอโทษ ผมจึงรู้สึกพอใจทุกคนต่างพอใจจึงตกลงไกล่เกลี่ยกันได้”
