ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายสุพล ชัยฉลาด อายุ 83 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.หนองระฆัง อ.สนม จ.สุรินทร์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวนเวร สภ.สนม จ.สุรินทร์ กรณีหลานชายอายุ 10 ขวบ ถูกผู้อำนายการโรงเรียนเรียกไปที่ห้องและใช้ไม้ระแนงตีหลายครั้งถูกด้านหลังศีรษะ แขน ทำให้มีรอยช้ำ ศีรษะแตกยาวประมาณ 10 เซนติเมตร
ล่าสุด ที่ โรงเรียนชุมชนบ้านนาดี มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาคณะกรรมการโรงเรียน พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เดินทางเข้าตรวจสอบ ก่อนเข้าประชุมร่วมกันโดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนเข้าฟัง พร้อมยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงตามที่ผู้ร้องเรียนไปแจ้งความ ที่ สภ.สนม
นายสุพล ชัยฉลาด กล่าวในที่ประชุมว่า ตนเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สนมแล้ว หลังทราบว่าหลานชายถูกผอ.ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ โดยศีรษะมีรอยบาดแผลที่ถูกไม้ระแนงตี และบอบช้ำไปทั้งตัว เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นในยุคนี้ ตนไม่เคยลงไม้ลงมือตีลูกหลานขนาดนี้ แต่เป็นแบบนี้แล้วตนคงต้องหาที่เรียนให้หลานใหม่
ด้านผอ.โรงเรียนชุมชนบ้านนาดี กล่าวว่า ยอมรับว่าตีเด็กเพราะทนพฤติกรรมเด็กไม่ไหว เด็กมาโรงเรียนแต่ละครั้งชอบหาเรื่องเพื่อนในห้องเรียน ซึ่งวันหนึ่งๆจะมีเรื่องถึง 3 ครั้ง บางครั้งตนโมโหเคยบอกเด็กว่า “ดื้อๆแบบนี้ต้องตีให้ตายพร้อมนำตับไปแกล้มเหล้า”กระทั่งเด็กไม่กล้ามาโรงเรียนถึง 3 วัน
นางณัสุรีย์ อนุศาสนัน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ประกอบกับเด็กที่กำลังเรียนยังดื้อ แต่ควรหาทางออกที่ดีกว่านี้ หากเด็กต้องการเรียนด้านกีฬา ก็ควรนำเข้าไปศึกษาในโรงเรียนที่เด็กถนัด ในวิชาที่เด็กชอบ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองควรเข้าใจปัญหาของลูกหลานตนเองและเอาใจใส่ในการเรียนมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม อยากให้ทั้งฝ่ายผู้ปกครองและครูทำความเข้าใจกัน และให้อภัยกันส่วน ในเรื่องของคดีนั้นก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเป็นขั้นตอนของกฏหมาย
ด้านผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ใช้ ชื่อ ศิริโรจน์ ชัยฉลาด ซึ่งเป็นป้าของเด็ก กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะหลานของตน อยู่ในการดูแลของตนและลุงป้าน้าอา เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันมานาน ตนโพสต์ออกไปเป็นความจริง เพราะไม่รู้จะไปอธิบายกับใคร เนื่องจากครอบครัวจนใครจะมองอย่างไรก็ได้ แต่ตนไม่เห็นด้วยที่ผอ.ใช้ความรุนแรงขนาดนี้กับเด็ก และได้ไปแจ้งความที่ สภ.สนม แล้ว
