จ่อปิดศูนย์บัญชาการ ‘โควิด-19’ วันนี้ ย้ำทุกคนปลอดภัย ใช้ชีวิตร่วมในสังคมได้ปกติ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การนำคนไทยกลับบ้าน กรณีไวรัสโควิด-19 อาคารสัญญาบัตร โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดแถลงข่าววันสุดท้ายเกี่ยวกับ “ภารกิจการจัดการด้านเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค ตั้งแต่สนามบิน จนถึงวันส่งกลับภูมิลำเนา” โดยมี พญ.หรรษา รักษาคม ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี พญ.ลานทิพย์ เหราบัตย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี น.ส.วิชญาภัทร์ สามารถ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ น.ส.อภิญญา ดวงสิน นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ นายธนกฤต กลมเกลียว เภสัชกรชำนาญการ น.ส.นิติพร รัตนปกรณ์ นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ น.ส.ธันยนันท์ สถลัชนันท์สกุล นักประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมทำการแถลง

พญ.หรรษาเปิดเผยว่า สำหรับกรณีการนำคนไทยกลับบ้านจากเมืองอู่ฮั่นสู่ประเทศไทยนั้น ทางสำนักงานป้องกันควบคุมโรคได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมมาก่อนที่จะมีการเดินทางกลับสู่ประเทศไทยแล้ว ทั้งการประสานงานหน่วยงานร่วมต่างๆ เรื่องสถานที่รองรับ การเดินทาง อุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อการป้องกันทั้งในส่วนของแพทย์ พยาบาล และคนไทยที่เดินทางกลับ รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ที่สำคัญ ทั้งการจัดทำทะเบียนรายบุคคล การตรวจวัดไข้ อุณหภูมิ การตรวจเชื้อทางโพรงจมูก ซึ่งดำเนินการตั้งแต่อยู่บนเครื่องและในอาคารรับรอง นอกจากนี้ยังมีการจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพยาบาลที่ดูแลเป็นประจำทุกวันตลอด 24 ชม.

ด้าน น.ส.นิติพรระบุว่า ทางหน่วยงานดำเนินการตามมาตรฐานอย่างเข้มงวดตั้งแต่บนเครื่อง ทั้งการตรวจวัดไข้ การเตรียมหลุมจอดฉุกเฉินสำหรับเครื่องบินที่โดยสารคนไทยมาจากเมืองอู่ฮั่นโดยเฉพาะ การรายงานเหตุการณ์บนเครื่องตลอดระยะเวลา รวมถึงขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองที่เจ้าหน้าที่มีการสวมใส่ชุดป้องกันที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ก่อนจะนำขึ้นยานพาหนะที่จัดเตรียมไว้เป็นการเฉพาะไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้เพื่อนำส่งคนไทยเข้าพักยังอาคารรับรองที่มีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับช่วงต่อ ซึ่งเรียกกันว่า Red Zone

พญ.หรรษากล่าวต่อไปว่า หลังนำคนไทยที่กลับสู่บ้านเข้าสู่อาคารรับรองได้มีการอบรมสร้างความเข้าใจเรื่องของการปฏิบัติตัว และการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องการตรวจวัดไข้เป็นประจำทุกวัน การใส่อุปกรณ์ป้องกัน โดยได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ทุกด้านอย่างครบถ้วน และมีการสำรองอุปกรณ์ไว้ล่วงหน้า 3 วัน พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันบำราศนราดูรที่มาคอยดูแลในส่วนของแพทย์และบุคลากรที่ดูแลคนไทยด้านใน ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่คนไทยกลับบ้านพักฟื้นรักษาตัวอยู่นั้น พบว่าทุกคนมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดี และมีความพร้อมที่จะเดินทางกลับสู่บ้านหลังครบกำหนด

Advertisement

“อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่มีการตรวจพบว่ามีคนไทยจำนวน 4 คน มีอาการป่วยนั้น หลังเดินทางสู่ประเทศไทยก็ได้มีการจัดรถฉุกเฉินพิเศษเพื่อนำตัวไปดูแลอาการที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และ รพ.สัตหีบ กม.10 ซึ่งขณะนี้พบว่าทั้งหมดมีอาการปกติแล้ว ขณะที่อีก 1 ราย ที่ตรวจพบเชื้อและนำตัวส่งไปยัง รพ.ชลบุรีนั้น จากการตรวจพบ LAB ล่าสุดยังพบว่ามีเชื้อโควิด-19 อยู่ ซึ่งก็กำลังติดตามสถานการณ์ทุกระยะด้วยคาดหวังที่จะให้คนไทยรายนี้สามารถกลับบ้านพร้อมกับคนไทยอีก 137 คน ที่จะเดินทางกลับในวันที่ 19 พ.ย.นี้

“ตลอดระยะเวลาที่คนไทยกลับจากอู่ฮั่นเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ทางหน่วยงานนอกจากจะดูแลในเรื่องของการป้องกันความสะอาด และการตรวจเชื้ออย่างสม่ำเสมอ พร้อมการดูแลเป็นอย่างดีตลอด 24 ชม. ทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก กิจกรรมสันทนาการแล้ว ยังมีการช่วยเหลือทั้งทางด้านการศึกษาสำหรับคนไทยที่ยังเป็นนักศึกษา และยังจัดกิจกรรมพิเศษให้กับคนไทยบางส่วน เช่น การส่งดอกไม้หรือของขวัญเนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาด้วย” พญ.หรรษากล่าว

Advertisement

พญ.หรรษากล่าวว่า ก่อนที่จะมีการส่งคนไทยกลับบ้านจะมีการตรวจเชื้อทางโพรงจมูกอีกครั้ง ซึ่งได้ดำเนิน การไปตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.หรือเมื่อวานนี้ คาดว่าจะทราบผลตรวจภายใน 8-12 ชม. หรือในช่วงบ่ายของวันนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยและญาติว่าทุกคนปลอดจากโรค และมีความพร้อมในการเดินทางกลับสู่บ้านและใช้ชีวิตในสังคม รวมทั้งการจัดทำใบรายงานผลทางการแพทย์เพื่อให้คนไทยทั้งหมดไว้ใช้ในการชี้แจงและยืนยันผลต่อผู้อื่นเพื่อลดความวิตกกังวล จึงอยากให้สังคมอย่าตื่นตระหนก และมีความเข้าใจในส่วนของคนไทยกลับบ้านว่าเป็นกลุ่มคนที่มีการดูแลอย่างดี สามารถใช้ชีวิตร่วมในสังคมได้อย่างปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 16.00 น. วันนี้ จะมีการแถลงข่าวการปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การนำคนไทยกลับบ้าน กรณีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อย่างเป็นทางการ ขณะที่ในวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งครบกำหนด 14 วัน การเฝ้าอาการจะมีการอนุญาตให้ญาตเดินทางเข้าไปรับตัวคนไทยทั้งหมดกลับสู่ภูมิลำเนาในเวลา 09.00 น. ขณะที่ผู้ที่ไม่มีญาติมารับ ทางกองทัพเรือจะจัดยานพาหนะนำส่งกลับถึงบ้านอย่างครบถ้วน

 

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image