ญาติเหยื่อรายสุดท้ายที่ช่วยออกจากเทอร์มินอล 21 วอนช่วยหางานที่มั่นคง เผยหลานสาวยังผวา-หลงๆ ลืมๆ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นางสมลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี นำนางเบญจวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้รอดชีวิตรายสุดท้ายที่ได้รับการช่วยเหลือออกจากชั้นแอลจี ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์การให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุยิงประชาชน เพื่อดำเนินการแจ้งเปลี่ยนนามสกุลให้ถูกต้องตามบัตรประชาชน กรณีเป็นผู้บาดเจ็บลำดับที่ 51 ของบัญชีการจ่ายเงินที่ได้รับบริจาคผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดเซฟวัน โคราช เพื่อช่วยเหลือ เยียวยาตามมติของคณะกรรมการ โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถามพร้อมตรวจสอบเอกสารหลักฐานทางราชการและที่เกี่ยวข้อง จึงอำนวยความสะดวกให้แล้วเสร็จตามการร้องขอ

นอกจากนี้ นางเบญจวรรณได้นำข้อมูลที่บันทึกจากสื่อโซเชียลมีเดียเป็นภาพเจ้าหน้าที่กำลังลำเลียงร่างตนเองนอนหมดสติลงบนเปล ก่อนเคลื่อนย้ายส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ช่วงเวลาประมาณ 08.50 น. ซึ่งเกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา คนร้ายเสียชีวิต ในห้องเย็น ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อยืนยันเป็นความจริงและเปิดเผยว่า ตนเป็นพนักงานร้านค้าชื่อดังภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ได้เดินลงบันไดเลื่อนไปชั้นแอลจี เพื่อซื้อน้ำดื่มที่ฟู้ดแลนด์ ขณะนั้นคนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุพอดี ด้วยความกลัวจึงรีบวิ่งไปหลบภัยอยู่ในห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของศูนย์การค้า ตั้งอยู่ข้างฟู้ดแลนด์ ห้องขนาดสี่คูณสี่ มีคนอยู่รวมกัน 9 คน ต้องเบียดเสียด แออัด แทบขยับตัวไม่ได้ ตนอยู่ในท่าคุกเข่าและพยายามติดต่อคนข้างนอกให้มาช่วยเหลือ โดยการแชตไลน์ ไม่สามารถโทรศัพท์พูดคุยได้ เพราะเกรงคนร้ายจะได้ยินเสียง

นางเบญจวรรณกล่าวอีกว่า ตนติดอยู่ท่ามกลางความมืด ไม่มีแสงไฟฟ้าส่องสว่าง มีแต่ความเย็นของเครื่องปรับอากาศ พร้อมได้ยินเสียงคนร้ายพูดบ่นคนเดียวและเสียงปืนดังเป็นระยะ โชคดีที่เพิ่งซื้อโทรศัพท์มาใหม่และชาร์จไว้ จึงเหลือพลังงานให้แชตไลน์คุยกับญาติตลอด ทั้งนี้ เมื่อปวดปัสสาวะก็ปล่อยออกมาใส่กางเกง หิวน้ำมากแต่ก็ต้องทน ติดอยู่ร่วม 15 ชั่วโมง จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือออกมาได้

Advertisement

ด้านนางสมลักษณ์กล่าวว่า หลานสาวมีอาการหวาดผวา อ่อนไหวกับสิ่งรอบข้าง ต้องทานยาทุกคืนจึงสามารถนอนหลับได้ ตื่นขึ้นมาก็นั่งลืมตาอยู่คนเดียว บางครั้งพูดวกไปวนมา หลงๆ ลืมๆ ไม่สามารถไปนอกบ้านได้เพียงลำพัง ต้องมีคนคอยช่วยเหลือตลอด ทั้งนี้ นายจ้างก็ดีมาก อนุญาตให้พักผ่อน ลางานได้โดยไม่หักเบี้ยขยัน ทุกคนเป็นห่วง จึงอยากขอความเมตตาให้ช่วยหางานที่มั่นคงให้หลานสาวทำด้วย เกรงว่าหากอาการไม่ดีขึ้นและยังอยู่ในสถานที่เดิม อาจทำให้สภาพจิตใจไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาปกติได้

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image