จนท.สนธิกำลังเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บุกรุกสวนป่าสัก 84 ไร่ ทางขึ้นเขาใหญ่

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ประกอบด้วย นาวาอากาศเอก สัญญา ประพันธ์ ทำหน้าที่ ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จังหวัดนครราชสีมา โดย พ.ต.อ.พิชิต มีแสง ผกก.สภ.หมูสี มอบหมายให้ พ.ต.ท.นิติภูมิ พลอยหมื่นไวย์ สว.ฝ่ายอำนวยการ สภ.หมูสี นายวีรเทพ ภูฆัง ฝ่ายนิติกร สำนักงานนิคมสร้างตนเองลำตะคอง นายวรัญญู ปุราเลิศ ปลัดอำเภอปากช่อง นายทะนงศักดิ์ สินแสนสุข กำนันตำบลหมูสี นายกฤษติชัย สุขมังษา สารวัตรกำนันตำบลหมูสี นายกสมาคม เครือข่ายอนุรักษ์ผืนป่าเขาใหญ่ ดงพญาเย็น เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอปากช่อง กำลังเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลหมูสี พร้อมรถตักเครื่องมือ นำหนังสือประกาศเทศบาลตำบลหมูสี เข้าทำการรื้อถอน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 43 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และเทศบาลตำบลหมูสีได้นำประกาศมาปิดเพื่อให้ผู้บุกรุกทราบตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 เวลา 10.00 น.เป็นต้นมา โดยเจ้าของผู้ครอบครองอาคารจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนอาคารดังกล่าว

เบื้องต้นพบยายวัย 65 ปี พร้อมหลานชายวัย 2 ขวบ เฝ้าบ้าน โดยอ้างว่าเป็นแม่ยายและมาเลี้ยงหลานให้ นายพนมกร แลกปั้น ทั้งหมดออกไปทำงาน และมีการขอต่อรองถึงช่วงเย็น ต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานและแจ้งให้นายพนมกรทราบและรีบมาที่บ้าน พร้อมโวยวายส่งเสียงดัง ถามหาหมายศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อ้างประกาศการปลูกสร้างอาคารโดยไม่ถูกต้อง และไม่ได้ขออนุญาต ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง นายพนมกรจึงยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการรื้อถอน ประกอบด้วย เพิงบ้านพัก 3 หลัง คอกวัว เล้าไก่ โดยเจ้าหน้าที่ยินดีให้นำอุปกรณ์การปลูกสร้างคืนกลับออกไปนอกพื้นที่ได้ และพร้อมนำรถบรรทุกของเทศบาลตำบลหมูสีบริการขนส่งให้ฟรี

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อ 5 ปีก่อน พันโท กตัญญู เรืองสำราญ หัวหน้าชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้รับรายงานว่า มีผู้มีอิทธิพลทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ร่วมกันเข้าไปบุกรุกยึดครองพื้นที่สวนป่าสักที่หน่วยงานราชการร่วมกับชุมชนปลูกไว้เมื่อ 50 ปี จนต้นสัก จำนวนกว่า 3 หมื่นต้น สูงใหญ่ บริเวณริมถนนธนะรัชต์ กม.12 ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่กว่า 184 ไร่ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการ เทศบาล ตำรวจ ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบ

Advertisement

ขณะนั้นพบนายพนมกรอ้างเป็นเจ้าของทั้งหมด อ้างว่ากำลังตรวจสอบสิทธิการครอบครอง โดยบอกว่า แม่ตนเองเข้ามาทำกินประมาณ 50 กว่าปีแล้ว และแม่ก็เสียชีวิตแล้ว ไม่มีหลักฐานอะไรเลย และจะไม่ยอมออกจากพื้นที่ อีกทั้งยังทำป้ายมาติดไว้แสดงตัวเป็นเจ้าของทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำตะคองได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีที่ร่วมกันบุกรุกพื้นที่จำนวน 184 ไร่ หากนำมาแบ่งขายมูลค่าไร่ละกว่า 10 ล้านบาท 184 ไร่ มูลค่ากว่าพันล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบว่าที่ดินแปลงนี้มีนายทุนและผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมีรั้วแบบคาวบอยล้อมรอบบริเวณด้านหน้า ซึ่งเป็นพื้นที่ของนิคมลำตะคองเมื่อสมัย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ดำรงตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำรั้วล้อมพื้นที่เอาไว้ เนื่องจากมีพื้นที่แห่งแห่งเดียวที่มีต้นไม้สักขนาดใหญ่ที่หน่วยงานได้ร่วมกันอนุรักษ์มายาวนาน แต่ก็ถูกบุกรุก ยึดครอง สร้างที่พัก โดยไม่มีหลักฐานใดๆ พร้อมทั้งมีการปลูกสร้างเพิงพักอาศัย คอกวัว เล้าไก่ อยู่ในพื้นที่หลายหลัง และไม่ยอมออกไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 นายอรรถพล เจริญชันษา ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทหารจาก มท.บ.21 นำเจ้าหน้าที่และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบมาแล้ว โดยชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้ไม่ยอม เพราะคนเก่าๆ เป็นคนปลูกป่าเอง และทราบกันดีว่ามีนายทุนพยายามจะเข้ายึดถือครอบครองกันหลายรายแล้ว แต่ทำไม่ได้ จนมีกลุ่มนายทุนให้นายพนมกรเข้ามาบุกรุกสร้างบ้านขึ้นหลายหลัง ซึ่งก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว แต่ยังไม่ยอมออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด พบว่ามีการปลูกเพิงบ้านพักหลายจุด รวมทั้งรั้วล้อมพังเสียหาย ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หมูสี ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง พร้อมนำสำนวนส่งฟ้องผู้บุกรุกจำนวน 5 ราย ต่อมาศาลชั้นต้นได้ตัดสินลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี กับผู้บุกรุกทั้ง 5 ราย ไม่รอลงอาญา พร้อมทั้งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ออกให้หมด ต่อมาผู้บุกรุก (จำเลย) ได้ขอยื่นอุทธรณ์

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image