เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 30 มกราคม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ร.ท.สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 (ศรชล.เขต3) สั่งการให้เรือหลวงแกลงตรวจสอบและจับกุมเรือประมงนอกน่านน้ำที่เดินทางกลับมาจากมหาสมุทรอินเดีย 2 ลำ ประกอบด้วย เรือมุกอันดามัน 018 และเรือมุกอันดามัน 028 เป็นเรือที่ออกไปทำการประมงเบ็ดราวทูน่า เนื่องจากมีพฤติกรรมในการทำประมงผิดกฎหมายไอยูยู ไม่มีการแจ้งเข้า-ออกเรือ มายังท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยมี พล.ร.ต.กิตติพงศ์ รุมาคม รองผู้บัญชาทัพเรือภาคที่ 3 พ.ต.อ.กิตติพงศ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต นายสาคร ปู่ดำ นักวิชาการชำนาญการ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ตลอดจนเจ้าหน้าที่ประมง เจ้าหน้าที่ตรวจด่านสัตว์น้ำ และเจ้าหน้าที่ศูนย์รายงานเรือเข้า-ออก (ศูนย์ PIPO) เข้าร่วมตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมาย
สืบเนื่องจากศูนย์รายงานเรือเข้า-ออก หรือศูนย์ PIPO แจ้งว่า เรือดังกล่าว คือ เรือมุกอันดามัน 018 และ เรือมุกอันดามัน 028 เป็นเรือประมงสัญชาติไทยออกไปทำประมงนอกน่านน้ำไม่แจ้งการเข้าออกด้วยระบบติดตามเรือ หรือระบบวีเอ็มเอส ตามมาตรการป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมายของรัฐบาล พบอยู่ห่างเกาะภูเก็ตไปประมาณ 700 ไมล์ทะเล ก่อนที่สัญญาณจะขาดหายไป มีการประสานมายังทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อทำการค้นหา
พล.ต.ท.สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ได้สั่งการให้ส่งหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 3 นำเครื่องบินตรวจการณ์ขึ้นบินลาดตระเวนค้นหา จนพบว่าอยู่ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 75 ไมล์ทะเล และได้แจ้งให้เรือหลวงแกลงเข้าตรวจสอบ ก่อนควบคุมเรือและคุมตัวคนบนเรือมาเข้าที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เรือมุกอันดามัน 018 มีขนาด 434 ตันกรอส ภายในเรือมีกัปตันชื่อฮวง เตอ เถียน และลูกเรือจำนวน 28 คน ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 6 คน ฟิลิปปินส์ 17 คน เวียดนาม 3 คน และจีน 2 คน ส่วนเรือมุกอันดามัน 028 มีขนาด 372 ตันกรอส มีกัปตันชื่อ จู เฟง และลูกเรือรวม 27 คน ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ 16 คน อินโดนีเซีย 3 คน เมียนมา 2 คน เวียดนาม 2 คน จีน 3 คน และวานูอาตู 1 คน
ตั้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น มีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ประมง พ.ศ.2558, ขัดคำสั่ง คสช.ที่กำหนดให้มารายงานตัว และไม่ได้นำเรือมารายงานตัวตามกำหนด รวมทั้งนายท้ายเรือและช่างเครื่องไม่มีใบอนุญาต ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามยังมีเรืออีก 4 ลำ ที่ยังฝ่าฝืนคำสั่งไม่เข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ได้แก่ 1.เรือยู่หลง 6 เจ้าหน้าที่กำลังติดตาม 2.เรือยู่หลง 125 จะเข้ามาในช่วงประมาณวันที่ 9-10 ก.พ. 3.เรือเซริบู กำลังติดตาม และ 4.เรือ ฮงซิฟู จะเข้ามาใน 12-13 ก.พ.