เต็นท์รถยอมกลืนเลือด ‘ขายเท่าทุน’ สู้วิกฤตรถเชฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จากกรณีการปิดโรงงานและโชว์รูมทั่วประเทศ ของบริษัทรถเชฟโรเลต ที่ส่งผลกระทบเป็นโดมีโน่อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่พนักงานที่จะต้องถูกเลิกจ้าง ดีลเลอร์ต่างๆที่จะต้องเลิกกิจการ ผู้ใช้รถถุกลอยแพจากศูนย์บริการ ทำให้มีความวิตกกังวลและมีเสียงสะท้อนปัญหาความกังวลออกมาให้ได้ยิน และที่กำลังเป็นที่จับตาอย่างมากคือปัญหาที่เต็นท์รถมือ 2 จะต้องเผชิญคือ เพราะล่าสุดบริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ ก็ไม่ปล่อยเงินกู้ หรือจัดไฟแนนซ์ให้กับรถยี่ห้อเชฟโรเลต ทำให้แทบทุกเต็นท์ ต้องหามาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันเอง
โดยนายบุญสืบ มาศิริ เจ้าของเต็นท์รถใน อ.เมืองชัยนาท เปิดเผยว่า ตนเองซื้อรถยนต์เชฟโรเลตเข้ามาตามราคาปกติก่อนที่บริษัท GM จะประกาศปิดโรงงาน ซึ่งทำให้ราคารถเชฟโรเลตในตลาดหล่นลงทันที ซึ่งตนเองจำเป็นต้องปรับตัวด้วยการยอมขายในราคาทุนที่ซื้อเข้ามา เพื่อไม่ให้รถติดมือค้างเต็นท์นานเกินไป และในอนาคตการซื้อเข้ารถยี่ห้อนี้ก็ต้องมีความรอบคอบในเรื่องราคาให้มากขึ้น โดยราคารับซื้อเข้าจะลดลงอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ของราคากลางรถสเปกเดียวกัน และเต็นท์ส่วนใหญ่จะเน้นรับเฉพาะรถที่ผลิตก่อนปี 2010 ที่เป็นรุ่นที่สามารถใช้อะไหล่ร่วมกับรถญี่ปุ่นในตลาดได้ และจะต้องเป็นเครื่องดีเซล ส่วนในเรื่องของการขายออก นายบุญสืบบอกว่าในอนาคตคงลำบากแน่ๆสำหรับรถยี่ห้อนี้ เพราะไฟแนนซ์หลายๆ บริษัทปฏิเสธที่จะปล่อยกู้ แต่ก็ยังมี 2-3 บริษัทยังรับ แต่ก็ให้วงเงินเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลูกค้าจะต้องใช้เงินดาวน์มากขึ้น ถ้าจะซื้อรถยี่ห้อเชฟโรเลต
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
