เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายยยังคงมีมาตรการในการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หรือเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการคัดกรองผู้ป่วยอย่างเข้มงวดตามด่านพรมแดนทั้ง 3 แห่งคือด่านเชียงของ ด่านเชียงแสน และด่านแม่สาย ซึ่งมีพรมแดนติดประเทศลาวและเมียนมา โดยเฉพาะด่านเชียงของซึ่งมักจะมีคนจีนจากมณฑล ยูนนาน เมืองทางตอนใต้ของประเทศจีนเดินทางเข้าออกเป็นประจำ โดยจัดเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรคไปปฎิบัติการ่วมกับเจ้าหน้าที่ชายแดนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากรและทหารกองกำลังผาเมืองในการช่วยกันตรวจสอบ
นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขเชียงรายเปิดเผยว่า จากการตรวจคัดกรองผู้ป่วยตามด่านพรมแดนทั้ง 3 แห่ง และที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จำนวนกว่า 20,000 คน นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสจนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในพื้นที่แม้แต่รายเดียว แต่ก็ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการคัดกรองนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากประเทศจีน มาเก๊าและฮ่องกง หากพบผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยก็จะมีการนำตัวมาเจาะเลือดเพื่อตรวจเชื้อในทันที ซึ่งไม่ได้กีดกั้นให้เข้ามา เพียงแต่เป็นการคัดกอรง ส่วนประชาชนในพื้นที่ที่จะเดินทางไปทั้ง 3 ประเทศในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ
นายแพทย์ทศเทพ ยังกล่าวถึงกรณีความกังวลในเรื่องของหน้ากากอนามัยจะไม่เพียงพอ เพราะนอกจากการะบาดของไวรัส ยังมีปัญหาเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศไม่เกิน 2.5 จากหมอกควันไฟ ที่ช่วงนี้มีอยู่หนาแน่นว่าในส่วนของหน้ากากสำหรับบุคลากร เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน และประชาชนกลุ่มเสี่ยงนั้นมีอย่างเพียงพออยู่ แต่สำหรับบุคคลทั่วไปที่จะต้องการซื้อ ทางสาธารณสุขร่วมกับทางพาณิชย์ช่วยกันสอดส่องดูแล ซึ่งปัจจุบันเป็นสินค้าควบคุม ยังทำให้ยังหาซื้อกันได้อยู่ และก็ยังไม่พบรายงานว่าหน้ากากอนามัยขาดตลาด แต่เชื่อว่าจะมีเพียงพอสำหรับทุกคน
