อดีต ผญบ.ยันแสงไฟประหลาดมีจริง ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านลับแล ขณะนักข่าวอึ้ง!บุกดักดูโชคดีสุด ๆ พบดวงไฟด้วย!!…หลากหลายความเชื่อทั้งผีกระสือ-ผีโพรง – ส่วนพระเชื่อว่าเป็นแสงธาตุแก้ว ผู้นำท้องถิ่นแจงหมู่บ้านมีเมืองลับแลซ้อนทับกันอยู่
วันนี้ 26 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้า จากกรณี มีคนพบเห็นแสงไฟประหลาดสีเขียวนวลตาขนาดเท่าผลมะพร้าว ลอยไปมาได้เหนือพื้นดิน2 -3 เมตร ณ หมู่บ้านใหม่สัมพันตา ม.14ต.วังตะเคียนออ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังจากดูภาพข่าวจากผู้โพสต์ลงเฟซบุ๊ค ผู้สื่อข่าวหลายสำนัก ได้ลงพื้นที่เมื่อคืน(25 ก.พ.) เพื่อพิสูจน์แสงไฟดังกล่าวว่าเป็นผีกระสือ,ผีโพรง หรือ สิ่งเล้นลับศักดิ์สิทธิ์ใดแน่? โดยมี สาวสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) กับเพื่อนเดินทางไปดูด้วย พร้อมนำอาหารคาวเป็นโครงไก่ย่างดิบ ๆ ,ไก่ย่างสุกแล้ว มาล่อแสงประหลาดดังกล่าว โดยผู้สื่อข่าวได้พบดวงไฟขนาดเท่าผลมะพร้าวสีเขียวนวลตาสว่างวาบ ๆ เหนือพื้นดินนานเกือบ3 นาที ก่อนแสงดังกล่าวจะลอยหายไป คล้ายล่วงรู้ว่ามีคนดักรอบันทึกภาพนิ่ง –คลิปวีดีโออยู่ และ ได้สอบถามจากนายสาธิต สุขปัญญา ผู้เห็นภาพปริศนาเมื่อคืนวานนี้(24 ก.พ.) โดยได้พบแสงไฟนวลตาลอยสูงจากพื้น 2 -3 เมตร สว่างวาบ ๆ นานกว่า 3 นาที และ ลอยหนีหายไป โดยยืนยันว่าพบจริงตามที่นำเสนอโดยต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดเมื่อ วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมสอบถามชาวบ้านจากนายประสาร ติระบาน อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 327/1ม.14 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์ จ.ปราจีนบุรี นายประสารกล่าวว่า เคยเห็นแสงไฟเหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าเป็นแสงไฟอะไร ลอยไปมาเป็นแสงนวลตาขนาดเท่าผลมะพร้าว
ด้านพระสมบูรณณ์ นาควโร พระวัดสัมพันตาประชาสวรรค์ กล่าวว่า “แสงไฟที่เห็นอาจเป็นแสงไฟจากธาตุแก้ว ผู้ที่พบเห็นอาจเป็นผู้มีบุญ-บารมี สามารถพบ-เห็น แสงธาตุแก้ว ที่เสด็จให้คนพบเห็น ได้หมั่นเจริญสติ สร้างบุญกุศลโดยรู้จักให้ทาน ,รักษาศีล5 และ หมั่นสวดมนต์บำเพ็ญภาวนา – บริหารจิตเจริญปัญญา ตนเองเคยเห็นแสงธาตุแก้วตอนธุดงค์ในป่า ภาคอีสาน”
ขณะที่นายเฉลิม กิจสมัย อดีต ผญบ.ม.15ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “เคยเห็นแสงไฟนี้เหมือนกัน สมัยพ่อแม่เล่าว่า หมู่บ้านดังกล่าวนี้ เป็นหมู่บ้านเมืองลับแลทับซ้อนกันอยู่กับโลกมนุษย์ วันพระ-วันโกนโดยเฉพาะเทศกาลตรุษ-สงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย จะได้ยินเสียงเครื่องดนตรีไทย พิณพาท ลาดตระโพนแว่วมากลางดึกเสมอ ๆ ตนเอง ก็เคยเห็นแสงไฟเป็นดวงไฟเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเป็นแสงไฟอะไร ดวงไฟที่ว่าส่วนใหญ่จะลอยไป ไม่ลอยกลับที่เดิมมักเห็นในวันพระ หรือ วันโกน” นายเฉลิมกล่าว
ด้าน ป้าเตี้ย จันดากุลกล่าวว่า “ เคยเห็นดวงไฟประหลาดจริงหลายหนแต่ละหนจะลอยหนีไปต่อหน้าต่อตา แต่ละครั้งที่เห็นดวงไฟติดว่าเป็นแสงไฟคนมาหาส่องปลา เมื่อเดินเข้าไปหาปรากฏว่าเป็นดวงไฟลอยหนีไปหน้าตาเฉย ยอมรับว่าไม่ใช่เป็นการอุปมาอุปมัยเล่นๆแต่อย่างใด”ป้าเตี้ย กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
