ผู้ว่าฯ สุรินทร์ไหว้ขอหยุดดราม่า-บูลลี่ กรณีสาวกลับจากเกาหลี แจงไม่มีอาการป่วย อยู่ระหว่างกักตัว

ผู้ว่าฯ สุรินทร์ไหว้ขอหยุดดราม่า-บูลลี่ กรณีสาวกลับจากเกาหลี แจงไม่มีอาการป่วย อยู่ระหว่างกักตัว

เป็นเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจในโลกออนไลน์อย่างมาก สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางภาครัฐและเอกชนหลายแห่งได้ขอความร่วมมือให้กักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ และเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเผยแพร่เชื้อนั้น ล่าสุดได้มีกรณีที่ชาวเน็ตจับสังเกตว่ามีบางรายออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเดินทางไปยังหลายสถานที่ ทั้งๆ ที่เพิ่งกลับจากประเทศเกาหลีใต้นั้น ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรับผิดชอบต่อสังคมไปในวงกว้าง

หนึ่งในนั้นคือกรณีของหญิงสาวเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีและได้ออกเดินทางไปหลายพื้นที่ และพื้นที่ล่าสุดคือ จังหวัดสุรินทร์

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม มีรายงานว่า นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า

Advertisement

กรณีคนไทยกลับจากเกาหลีใต้ เข้ามาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ก่อนเที่ยงมีพี่น้องชาวสุรินทร์ส่งข้อความมาบอกว่า มีน้องผู้หญิง เป็นคนไทยไปอยู่เกาหลีใต้ เดินทางกลับประเทศไทย แล้วเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย จุดสุดท้ายเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์เพื่อเยี่ยมคุณพ่อของเธอ

ผมได้สั่งการให้นายอำเภอเมืองสุรินทร์ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกค้นหา พบตัวเวลาประมาณ 14.00 น ที่บ้านคุณพ่อของเธอ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการซักประวัติและสอบสวนโรค ปรากฏผลดังนี้ครับ

1.จากการตรวจของแพทย์ ขณะนี้ไม่พบว่าบุคคลดังกล่าวมีอาการป่วยแต่อย่างใด
2.สอบสวนเพิ่มเติมบุคคลดังกล่าวอ้างว่าถูกกักตัวเพื่อดูอาการของโรคที่เกาหลีใต้มาแล้ว 14 วัน จึงเดินทางเข้าประเทศไทย มาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563
3.จนท.จึงถามหาหลักฐานที่ยืนยันว่าเจ้าตัวถูกกักตัวไว้ 14 วัน ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ ประกอบกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้สอบถามไปยังกรมควบคุมโรค ได้รับการยืนยันว่า ไม่มีข้อตกลงระหว่างไทยกับเกาหลีใต้เรื่องให้กักตัวคนไทย เพื่อดูอาการของโรคก่อนให้เดินทางออกนอกประเทศ
4.จนท.ของจังหวัดสุรินทร์ จึงขอความร่วมมือจากบุคคลดังกล่าวในการขอกักตัวไว้ดูอาการของโรค 14 วันนับแต่วันที่เดินทางมาถึงประเทศไทย โดยขณะนี้ได้เชิญบุคคลดังกล่าวไปกักตัวไว้ที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน มทบ.25 อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ภายใต้การดูแลของแพทย์ ตามนโยบายของพลโท ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือด้วยดี

Advertisement

ย้ำขณะนี้ น้องผู้หญิงคนนี้ ยังไม่มีอาการป่วยนะครับ การขอความร่วมมือกักตัวเป็นมาตรการควบคุมโรค เพื่อเฝ้าดูอาการจนกว่าจะพ้นระยะฟักตัวของโรคคือ 14 วัน และจังหวัดจะได้ดำเนินการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำ และทำความสะอาดบริเวณสถานที่ที่น้องเดินทางไปในจังหวัดสุรินทร์ครับ

#งดดราม่าครับ เพราะน้องเขาให้ความร่วมมือดี และเขาก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่มีสิทธิกลับแผ่นดินเกิดของตัวเอง เพียงแต่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในสถานการณ์อย่างนี้ เราควรสามัคคีกันครับ และถ้าพบเห็นบุคคลเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้แจ้งที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือนายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ ได้ตลอดเวลาครับ

ต่อมา ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ได้โพสต์ข้อความอีกว่า

“พอเถอะครับ ไหว้ล่ะ Bully ด่าทอ เหน็บแนมเขา ระวังเขาอับอาย เคียดแค้น ปกปิดข้อมูล ไม่ให้ความร่วมมือ หลบหนีไปตามที่ต่างๆ แล้วคุณจะหนาวกัน สามัคคีกันไว้ครับ ให้อภัยกัน อย่าลืมสถานการณ์เพิ่งเริ่มต้น ดูกันยาวๆ ยิ่งทะเลาะกัน ถ้ามีเหตุการณ์จริง ไม่หันหน้ามาร่วมมือกันยุ่งแน่ครับ”

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image