ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องส่งผลให้มีน้ำสะสมใต้ดินจำนวนมาก ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม) ต้นโพธิ์ยักษ์อายุกว่า 100 ปี ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เกิดหักโค่นลงมา กองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้นำกำลังพลกว่า 40 นาย มาช่วยกันตัดเลื่อยและเคลื่อนย้ายต้นโพธิ์ยักษ์ออกจากที่ทับร้านค้าสมุนไพรจำนวน 20 ร้าน และรถยนต์เก๋ง 1 คันได้รับความเสียหาย
ขณะที่วันที่ 7 กรกฎาคม ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พ.ท.สุทธิศักดิ์ ไหลเตื่อย หัวหน้าฝ่ายกำลังพลกองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นำกำลังพลกว่า 40 นาย มาช่วยกันตัดเลื่อยเคลื่อนย้ายต้นโพธิ์ยักษ์อายุกว่า 100 ปี ออกจากพื้นที่หลังจากช่วงค่ำที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทั้งวัน ส่งผลให้ต้นโพธิ์ยักษ์ที่อยู่ในบริเวณวัดเกิดหักโค่นลงมา คาดว่าต้นโพธิ์มีอายุมากประกอบกับต้นไม้รับน้ำหนักไม่ไหว จึงหักโค่นแบบถอนรากถอนโคน มีเพียงร้านค้าสมุนไพรจำนวน 20 ร้าน และรถยนต์เก๋ง 1 คัน ได้รับความเสียหายเท่านั้น โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา แม้บางส่วนจะมองว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่บางส่วนกลับมองเป็นลางร้าย เพราะหลายปีที่ผ่านมาต้นโพธิ์ก็ต้านลมฝนมาได้ทุกปี แต่ปีนี้กลับโค่นลง
ทั้งนี้ บางส่วนได้เกี่ยวโยงไปถึงกรณีที่ช่วงบ่ายของวันที่ 6 ก.ค. หญิงไก่ หรือ นางมณตา หยกวิริยะกาญ เพิ่งเดินทางมากราบหลวงพ่อพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พร้อมกับสาบานยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง โดยว่าถ้าใครขโมยของตนไปขอให้มีอันเป็นไป แต่ถ้าตนเป็นคนใส่ความก็ขอให้เกิดภัยพิบัติขึ้นในชีวิต
