หนองคายเข้มคัดกรองชาวลาวจุดผ่อนปรน ผู้ว่าฯ ยันยังไม่มีคนป่วยโควิด-19

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ตลาดจุดผ่อนปรนชายแดนไทย-ลาว เทศบาลตำบลโพนพิสัย อ.โพนพิสัย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายถาวร สังคมาน นายอำเภอโพนพิสัย, พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.โพนพิสัย พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมการตรวจคัดกรองชาวลาวที่จะเดินทางเข้ามาขายสินค้าและจับจ่ายซื้อหาสินค้าภายในตลาดจุดผ่อนปรน และตามร้านค้าภายในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย

โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันคัดกรองชาวลาวบริเวณบันไดขึ้น-ลงโป๊ะจอดเรือ โดยได้มีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศทุกคน อีกทั้งได้มีการให้คำแนะนำในการดูแลป้องกันตนเองเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งพบว่าผู้ที่เข้ามาเดินจับจ่ายซื้อสินค้าส่วนใหญ่มีการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันให้กับตนเอง

นายรณชัยเปิดเผยหลังจากที่ช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.หนองคาย ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.หนองคาย ขณะนี้ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อ ส่วนแรงงานที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ทั้ง 11 ประเทศ โดยเฉพาะเกาหลีนั้น ขณะนี้มีทั้งหมด 192 คน เดินทางกลับภูมิลำเนาผ่านการกักตัว 14 วันแล้วส่วนหนึ่ง และอยู่ระหว่างการกักตัวในภูมิลำเนาของตัวเอง 113 คน ต้องเรียนว่าทุกคนที่เดินทางกลับมาล้วนเป็นคนไทยที่มีความจำเป็นต้องไปทำงานในต่างประเทศเพื่อหารายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ฉะนั้น การที่บุคคลกลุ่มนี้เดินทางกลับมาก็เป็นการกลับภูมิลำเนาของตนเอง แต่เราก็ต้องใช้มาตรการตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ นั่นคือขอให้บุคคลกลุ่มนี้อยู่ในพื้นที่ ไม่ไปสัมผัสกับบุคคลอื่น และมีการเฝ้าระวังตนเองเป็นเวลา 14 วัน พื้นที่ที่ดีที่สุดก็คือบ้าน หรือภูมิลำเนาของตนเอง เพราะจะได้อยู่บ้านของตนเอง อยู่กับครอบครัว แต่ก็ต้องระมัดระวังคนในครอบครัวที่อยู่ใกล้ หรือไปสัมผัส ก็ต้องมีมาตรการที่ชัดเจน ซึ่งก็ได้มีข้อแนะนำให้กับพื้นที่อยู่แล้ว หัวใจสำคัญที่จะไม่ให้มีการแพร่ระบาดกระจายไปในพื้นที่ต่างๆ นั้น คือการที่จะให้บุคคลเหล่านี้อยู่ในพื้นที่ 14 วัน โดยมีการเฝ้าระวังของคนในครอบครัว กลไกสำคัญคือเจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่และประชาชนในพื้นที่ ทางจังหวัดได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน คณะกรรมการในระดับพื้นที่ลงไปจนถึงระดับตำบล ระดับหมู่บ้าน เพื่อให้เฝ้าสอดส่องดูแล ให้คำแนะนำ แล้วมีการแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบด้วย ทางจังหวัดไม่ได้มีการปกปิดข้อมูล เป็นความร่วมมือของคนในพื้นที่ที่จะต้องรับทราบ เพื่อที่ทุกคนจะได้ช่วยกัน ร่วมกันเฝ้าระวัง ให้กำลังใจผู้ที่กักกันตนเอง 14 วัน ซึ่งตนมองว่าเป็นความร่วมมือของผู้ที่เดินทางกลับมา คนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการเข้าไปให้คำแนะนำ ตรวจเยี่ยม และหากพบว่าบุคคลกลุ่มนี้มีอาการไข้ก็ต้องรีบเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่ามีก็นำส่งโรงพยาบาลที่ขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว

Advertisement

“จ.หนองคาย ยังไม่มีผู้ติดเชื้อและยังไม่มีการแพร่ระบาด ที่ผ่านมามีการตรวจรักษาและส่งแล็บ จำนวน 11 ราย ซึ่งผลตรวจที่แล็บไม่พบว่าเป็นโรคโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ ยังมีหลายอย่างทางวิชาการด้านสาธารณสุขต้องทำการศึกษาอยู่ จึงต้องการเฝ้าระวัง แต่ต้องไม่ตระหนกตกใจจนเกินไป ซึ่งการเฝ้าระวังและป้องกันตนเองนั้นคือกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ที่ถือว่าเป็นหลักการอยู่แล้ว ในกรณีการอยู่ในห้องที่ปิด หรือในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศที่มีอากาศเย็น ที่ทำให้เชื้อโรคอยู่ในอากาศได้นานนั้นควรจะหลีกเลี่ยง ที่สำคัญผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงก็ต้องมีการรับผิดชอบด้วย ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ผู้ที่มีอาการ หรือป่วย แม้ว่าจะไม่ใช่โรคโควิด-19 ก็ต้องระมัดระวังตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปยังบุคคลอื่น หากทุกคนร่วมมือร่วมแรงช่วยกัน มีการระมัดระวัง มีการติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริงจากทางราชการ ก็จะทำให้เราสามารถระวังป้องกันตนเองได้ ลดการติดต่อ ลดการแพร่ระบาดได้ และไม่ต้องเกิดการกลัวกันมากเกินไป แต่ก็ต้องมีการระมัดระวัง ลดการเดินทางไปสถานที่เสี่ยง และการเดินทางไปต่างประเทศ” นายรณชัยกล่าว

ในส่วนของหน้ากากอนามัยที่ขาดแคลนนั้น นายรณชัยกล่าวว่า เนื่องจากในช่วงนี้ประชาชนส่วนใหญ่เกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาก หรืออาจจะได้รับข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ทำให้มีการซื้อหน้ากากเก็บไว้กันเป็นจำนวนมาก ขณะนี้หน้ากากอนามัยก็ยังมีการจำหน่ายในบางพื้นที่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหาซื้อได้ยาก ซึ่งการมีหน้ากากอนามัยไว้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่หน้ากากผ้าก็สามารถใช้ป้องกันเชื้อโรคชดเชยหน้ากากอนามัยที่ขาดแคลนได้ ช่วงนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย เจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้มีการเข้าไปตรวจสอบร้านค้าต่างๆ อยู่เป็นประจำ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Advertisement

เพิ่มเพื่อนล่าสุด ทางตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้มีการรายงานว่ามีการลักลอบนำเข้า-ส่งออกหน้ากากอนามัยในลักษณะที่ผิดกฎหมาย ได้มีการจับกุมดำเนินคดี ถือเป็นการป้องปรามกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการของรัฐในเรื่องของหน้ากากอนามัย ที่ได้มีการประกาศให้เป็นสินค้าควบคุมไปแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image