อุดรฯวันเดียว3 ราย เพิ่ม ปิดห้างฯแบบ กทม. เตรียมล็อคเมือง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 มีนาคม 2563 ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น5 ศาลากลางจ.อุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่ออุดรธานี ครั้งที่ 6 โดยมี รอง ผวจ.อุดรธานี , ผอ.ศูนย์ป้องกันโรคติดต่อที่ 8 , สาธารณสุข จ.อุดรธานี และคณะกรรมการฯ เข้าร่วมประชุมหลังจากอุดรธานีที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” ได้ตรวจพบมีผู้ติดเชื้อวันเดียว 3 คน รอการยืนยันอีก 4 คน
ที่ประชุมรายงานสถานการณ์ว่า ที่ผ่านมาอุดรธานีมีความห่วงใย ลูกหลานแรงงานเดินทางกลับจาก 15 ประเทศกลุ่มเสี่ยง มีการติดตามเฝ้าระวังคนเหล่านั้นรวม 1,904 ราย ผ่านการกักตัว 14 วัน 1,098 ราย ยังเหลื่อที่ต้องกักตัว 806 ราย ซึ่งก็จะทยอยพ้นการกักตัว ขณะเดียวกันก็มีผู้เดินทางกลับมาเพิ่ม โดยผู้เฝ้าระวังเข้าข่ายตรวจหาเชื้อ 124 ราย ผ่านการตรวจ 117 ราย รอผลการตรวจ 4 ราย และพบผู้ติดเชื้อ 3 ราย ทั้งหมดเดินทางจากกรุงเพทฯกลับบ้าน
อุดรธานีไม่มีนโยบายปกปิดข้อมูล เป็นการให้ข้อมูลตามกรอบปฏิบัติ หากมีการตรวจพบเชื้อในครั้งแรก ก็ได้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ ติดตามลงไปสอบสวนหาข้อมูล และรอผลการตรวจสรอบที่สองจาก กทม. เมื่อรายงานผลรอบที่ 2 มีการยืนยันก็นำข้อมูลมาชี้แจง ซึ่งจากสถานการณ์ภาพรวมประเทศ การพบผู้ติดเชื้อที่อุดรธานี และประกาศมาตรการของกรุงเทพฯจะกระทบถึงบ้านเรา ประกาศเดิมจะรองรับได้หรือไม่ จึงต้องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศฉบับที่ 3
นายแพทย์ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ สาธารณสุข จ.อุดรธานี แจ้งว่า อุดรธานีกำลังดำเนินการก่อสร้าง สถานที่ตรวจ ผู้ป่วยนอก ของโรคระบบทางเดินหายใจ 7 วัน บริเวณลานจอดรถ รพ.อุดรธานี เพื่อคัดกรองผู้ป่วยมีไข้ ว่าเกิดจากติดเชื้อ “โควิด-19” หรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จใน 1 สัปดาห์ พร้อมเตรียบรองรับผู้ป่วย 500 เตียง นอกจากนี้การเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงพื้นจากพื้นที่เสียงใน กทม. ที่จะต้องกักตัวเอง 14 วัน และขอเชิญชวนชาวอุดรธานี ล็อคดาว อยู่บ้าน 14 วัน
ที่ประชุมได้นำประกาศฉบับที่ 2 มาทบทวนที่ละข้อเพื่อออกฉบับที่ 3 โดยนำมาตรการของกรุงเทพฯมาเทียบเคียง และมีมติให้ขยายเวลาจากเดิม 18-31 มีนาคม ขยายออกไปถึง 12 เมษายน 63 มาตรการปิดสถานศึกษา , สถานบันเทิง , คาราโอเกะ , โรงหนัง , สนามกีฬาบางชนิด , สนามมวย , บ่อนไก่ , ฟิตเนส , สปา , อาบอบนวด , นวดแผนไทย ยังคงปิดตามประกาศเดิมต่อ
ที่เพิ่มเติมคือ ปิดห้างฯเหมือนกรุงเทพฯ , ตลาดสด-ตลาดนัด ขายเฉพาะจำเป็นดำรงชีวิต (สวมแมส) , ร้านอาหารเน้นซื้อกลับกินบ้าน หรือปรับโต๊ะเก้าอี้ห่าง 1 เมตร โรงแรมเฉพาะผู้มาพัก , ร้านสะดวกซื้อต้องติดสติ๊กเกอร์คิวห่าง 1 เมตร , ปิดเสริมความงาม-เสริมสวย-ตัดผม , ปิดเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง , ปิดสนามพระ , วันสต็อบเซอร์วิส 2 แห่ง , ปิดตลาดนัดโคกระบือ , ปิดพิพิธภัณฑ์ , ปิดสนามแข่งรถ และมาตรการงานบุญ เพื่อไม่ต้องการให้คนออกจากบ้าน
ที่ประชุมยังพิจารณาเพิ่มมาตรการ การสแกนคนเดินทางจากกรุงเทพกลับบ้าน จากเดิมมีอยู่แล้วที่สนามบินอุดรธานี , สถานีขนส่งแห่งที่ 1 และสถานรถไฟ ให้เพิ่มการตั้งด่านตรวจร่วมที่หน้า รพ.อ.โนนสะอาด ถ.มิตรภาพ เพื่อตรวจรถโดยสารทุกคัน คนทุกคนที่เดินทางมา ทั้งการตรวจไข้ เก็บข้อมูลผู้โดยสาร และให้คำแนะนำ และยังให้อำนาจ ผวจ.อุดรธานี “ล็อคดาว” ห้ามประชาชนออกจากบ้าน ถ้าสถานการณ์จำเป็นไม่ต้องเรียกประชุมอีก
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องแถลงว่า อุดรธานีจะออกประกาศมาตรการ ฉบับที่ 3 ในวันนี้ทันทีตามมติคณะกรรมการ เมื่อกรุงเทพฯหยุดทั้งหมด คนก็จะทะลักมาบ้านเรา เพื่อรับกับการปิดที่กรุงเทพฯ อุดรธานีก็จะปิดเหมือนกัน ที่เราปิดแล้วเราก็ปิดต่อ และบางสถานที่ก็ปิดเพิ่มอีก นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จนถึง 12 เม.ย.63 เท่า กทม.
“ วันนี้ผู้ตรวจพบเชื้อทั้ง 3 คน อยู่ในความดูแลของแพทย์ เราจะทำการรักษาให้เขาหาย ตอนนี้เขาไม่มีโอกาสไปแพร่เชื้ออีกแล้ว ขณะการสอบสวนโรคครอบคลุม ที่ญาติพี่น้อง ผู้ที่ได้สัมผัสใกล้ชิดเขา เราก็ได้ให้คำแนะนำกักตัวเอง เฝ้าระวังจนกว่าจะครบเวลา 14 วัน เพื่อเราดูแลพี่น้องเราชาวอุดรธานี 1.6 ล้านคน สัปดาห์ก่อนเราเฝ้าลูกหล่นกลับจาก ตปท. วันนี้เราจะต้องปรับดูคนจากกรุงเพมาอุดรธานี ”
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี กล่าวอีกว่า เราได้ออกมาตรการสแกนคนมาอุดรธานี เริ่มต้นจากเส้นทาวกรุงเทพมุ่งหน้าอุดรธานี ทางเครื่องบิน รถโดยสาร และรถไฟ หามกำลังเราพร้อม อาจจะต้องเพิ่มรถส่วนตัว และเพิ่มเส้นทางเข้าอื่น จากนั้นก็ขอกำลังจาก อสม. , รพ.สต., ผญบ. และ กำนัน คัดกรองคนในหมู่บ้านอีกครั้ง เพื่อให้กักตัวเฝ้าระวังตนเอง ส่วนการล็อคดาวไม่ให้คนออกจากบ้าน หากจำเป็นจะประกาศล็อคที่ละระดับ
สำหรับผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” ทั้ง 3 เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน ทั้งหมดเดินทางมาจาก กทม. ก่อนที่จะตรวจพบเชื้อ ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ยังไม่มีอาการรุนแรง ได้รับการรักษาตัวจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
ประกอบด้วย รายแรก เป็นข้าราชการตำรวจยศ ส.ต.อ.สังกัด 191 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ปฏิบัติงานในพื้นที่สนามมวยลุมพินี อายุ 33 ปี เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านวันที่ 13 มี.ค. โดยสารรถทัวร์มา จ.อุดรธานี และเดินทางต่อกลับบ้านที่ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี วันต่อมามาพบแพทย์ รพ.กุดจับ ใช้คำนำหน้าว่านาย ก. ไม่ได้แจ้งเป็นตำรวจ มีอาการไข้ไอเล็กน้อย ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง วันที่ 16 มี.ค.เดินทางไปเที่ยวลองแพน้ำพาน อ.สร้างคอม
วันที่ 16 มี.ค.กลับมา รพ.ครั้งมี่ 2 ก็ยังไม่ให้ข้อมูลเพิ่ม จากนั้นไปเที่ยวสนามซ้อมไก่ ในหมู่บ้านใกล้เคียง ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งงาน จนวันที่ 19 มี.ค.มา รพ.เป็นครั้งที่ 3 แจ้งว่าเป็น ตร. ผู้บังคับบัญชาโทรมาแจ้งว่า เพื่อร่วมงานที่ไปสนามมวยลุมพินี ป่วยติดเชื้อ “โควิด-19” จึงส่งตรวจเชื้อและรู้ผลวันต่อมา โดยได้ติดตามเฝ้าระวัง คนในครอบครัว 4 คน คนที่ไปอ่าวน้ำพาน 14 คน ส่วนในสนามไก่ 14 คน กำลังติดตาม ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ 12 คน ได้ปฏิบัติตามมาตรการไม่น่าห่วง
รายที่สอง เป็นพนักงานบริการหญิง อายุ 41 ปี ชาว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ทำงานแม่ครัวในสถานบันเทิง ย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ เดินทางกลับบ้านเมื่อร้านถูกปิด ด้วยรถทัวร์ขณะที่มีไข้ ต้องสวมแมสอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงอุดรธานีเช้ามืดวันที่ 19 มี.ค. ได้ลงรถที่หน้า มรภ.อุดรธานี รถสามล้อเครื่องแจ้งให้ รพ.อุดรธานี ส่งรถมารับมาโรงพยาบาล และผลตรวจออกมาติดชื้อ ตรวจสอบพนักงานขับรถ พนักงานบริการ และผู้โดยสาร 30 คน อยู่ในระหว่างเฝ้าระวัง
รายที่สาม เป็นผู้หญิง อายุ 26 ปี ราษฎรใน อ.เมืองอุดรธานี เดินทางไปหาพาเพื่อน และพักอยู่กับเพื่อนในห้องเดียวกัน 15 วัน ระหว่างนั้นได้ไปเดินตลาดนัดรถไฟหลายครั้ง ก่อนจะเดินทางกลับมาอุดรธานี ด้วยเครื่องบินเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ขณะที่อยู่บ้านไม่ได้เดินทางไออกไปไหน จนเกิดอาการป่วยนอนอยู่บ้าน และเพื่อนที่กรุงเทพฯแจ้งมาว่าติดเชื้อจึงมาพบแพทย์ อยู่ระหว่างการตรวจระวัง ผู้โดยสารในเที่ยวบินเดียวกัน และคนในครอบครัวไม่กี่คน
