เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ลงนามคำสั่งฉบับที่ 2/2563 เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 34 และ 45 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจ.ประจวบฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อลงวันที่ 23 มี.ค.63 ให้ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ใน จ.ประจวบฯเพิ่ม โดยให้ขยายระยะเวลาสิ้นสุดของคำสั่งคณะกรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ 1/2563 วันที่ 19 มีนาคม 2563 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 1 เมษายน63 เป็นสิ้นสุดวันที่ 7 เมษายน 2563
ให้ปิดสถานที่ดังต่อไปนี้ สวนสนุก สวนน้ำ สนุ๊กเกอร์ สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือตู้เกม คลับเฮาส์และห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า (Locker) ที่ให้บริการในสนามกอล์ฟ หรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ สระว่ายน้ำ หรือกิจการอื่นๆในทำนองเดียวกัน ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่องพระบูชา สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกความงาม สถานเสริมความงาน สถานที่ให้บริการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร และซาวน่าโรงแรม ยกเว้นเป็นการดำเนินการเพื่อการรักษาพยาบาลในสถานบริการของรัฐ
นอกจากนี้ยังให้ร้านจำหน่ายอาหาร และหรือเครื่องดื่ม ให้จัดระยะห่างของโต๊ะและที่นั่งอย่างน้อย 1 เมตร ให้เจ้าของสถานที่มีหน้าที่ในการคัดกรองวัดไข้ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ 70 % วางแอลกอฮอล์ 70 % ล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน จัดให้มีการทำความสะอาดสถานที่ให้ครอบคลุมทุกจุดบริการ เน้นการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสและห้องสุขา ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดข้างต้นให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหาร และ/หรือเครื่องดื่ม เพื่อนำกลับไปบริโภค กรณีผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯได้เซ็นคำสั่งเป็นฉบับที่ 2 จากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดประจวบฯต่อเนื่องเป็นรายที่ 7 จึงต้องออกมาตรการเพื่อคุมเข้มการแพร่ระบาดของโรค
