เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายสมศักดิ์ ทาบโลกา ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำภายในเขื่อนลำแชะ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เขื่อนหลักของจังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ที่อำเภอครบุรี พบว่า ปริมาณน้ำภายในเขื่อนลดระดับต่ำลงเรื่อยๆ จากปัญหาภัยแล้ง โดยล่าสุดปริมาณน้ำเหลืออยู่ที่ 58.25 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 21 ของความจุทั้งหมดที่ 275 ล้าน ลบ.ม. แต่มีปริมาณน้ำใช้งานได้จริงเพียง 19 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 51 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้วยเหตุนี้เขื่อนลำแชะจึงหยุดส่งน้ำเพื่อการเกษตร และขอให้ประชาชนงดทำนาปรังทั้งหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้เป็นห้วงๆ ตามความต้องการใช้น้ำในภาคประชาชน โดยเฉพาะน้ำดิบสำหรับใช้ผลิตประปาชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งน้ำไปกักเก็บในแหล่งเก็บน้ำดิบประปาชุมชนในพื้นที่ได้ครอบคลุมทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากการประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมาได้ร้องขอให้เขื่อนลำแชะส่งน้ำไปสนับสนุนน้ำในลำน้ำมูลช่วงอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เดือนละ 6 แสน ลบ.ม. เพราะขณะนี้ขาดน้ำดิบผลิตประปาอย่างหนัก ทางเขื่อนลำแชะจึงส่งน้ำสนับสนุนผ่านไปทางท่อประปาของเทศบาลนครนครราชสีมาที่สูบขึ้นจากเขื่อนลำแชะโดยตรง ไปลงที่อ่างเก็บน้ำบ้านหนองบอน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ก่อนจะส่งน้ำต่อไปยังลำน้ำมูล เพื่อให้ไปถึงบริเวณสถานีสูบน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ทั้งนี้ จะส่งน้ำสนับสนุนการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมาไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือถึงช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะต้องส่งน้ำไปช่วยรวมประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม. และทางเขื่อนลำแชะยืนยันว่าจะยังคงมีน้ำสนับสนุนเพื่อการอุปโภคและบริโภคอย่างเพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้งนี้อย่างแน่นอน
