ยะลาติดเชื้อโควิด-19พุ่ง 24 ราย แม่ทัพภาค4 พบผู้นำศาสนา ย้ำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.ยะลา พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นยืนยัน 24 ราย (อาการรุนแรง 2 ราย) กับบ้านแล้ว 1 ราย จากอ.บันนังสตา 9 ราย, เมืองยะลา 11 ราย, รามัน 3 ราย, ธารโต 1 ราย รอผลการตรวจกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัส อีก 55 ราย พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางเข้าพบผู้นำศาสนา ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เพื่อรับฟังความคิดเห็น แนวคิด หามาตรการร่วมกัน ฝ่าวิกฤตไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่

ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดการแพร่ระบาดในพื้นที่ ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขยายวงกว้าง ต้องร่วมระดมความคิดเห็น หาทางในการแก้ไข และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ผ่านผู้นำศาสนา พร้อมมอบอุปกรณ์ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ โดยมี นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ดร.สะมะแอ ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา และผู้นำศาสนา เข้าร่วม

ล่าสุดทางศูนย์เฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.ยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ออกประกาศปิดศูนย์ดะฮ์วะห์แห่งประเทศไทย (มัรกัสยะลา) ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีประชาชนผู้เผยแพร่ศาสนาอิสลามเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ในลักษณะเบียดเสียด แออัด จึงมีความจำเป็นกำหนดมาตราการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรค เริ่มตั้งแต่วันนี้ 25-31 มีนาคม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อโรค และคัดกรองพื้นที่ ตามมาตราการของกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่ติดเชื้อในจังหวัดยะลาส่วนหนึ่ง คือกลุ่มผู้เผยแพร่ศาสนาที่เดินทางกลับจากการร่วมกิจกรรมงานชุมชนทางศาสนา ที่ประเทศมาเลเซีย

Advertisement

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่รัฐบาลประกาศ มีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ นัั้น ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการบังคับใช้ พ.ร.ก.อยู่แล้ว มีการดำเนินการ จำกัดการเคลื่อนย้ายบุคคลในพื้นที่ จะไม่มีการเดินทางออกนอกพื้นที่ และไม่เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่ 3 จังหวัด มีควบคุมกันเอง โดยการพูดคุยทำความเข้าใจร่วมกันกับผู้นำศาสนา ของสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทุกจังหวัด และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อร่วมมือกัน ฟันฝ่า วิกฤตโควิด-19 ขณะนี้ยอดการติดเชื้อของประชาชนในพื้นที่ มีทิศทางเพิ่มขึ้น ดังนั้น มาตราการการเคลื่อนย้ายคน การคุมพื้นที่ เป็นเรื่องที่สำคัญ อาจจะไม่สะดวกต่อพี่น้องประชาชน ขอให้อดทน ในช่วง ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน

“สำหรับเรื่องสินค้า อาหารการกินต่างๆ ยืนยัน จะไม่มีการขาดแคลน ไม่ต้องห่วงการกักตุน เพราะยังอนุญาติให้ สินค้าต่างๆ ที่ใช้ในการดำรงชีวิต สามารถผ่านเข้ามาในพื้นที่ได้ ร้านอาหารต่างๆ เปิดตามปกติ ร้านขายของเบ็ดเตล็ด ขายได้ปกติ โดยซื้อกลับบ้าน ส่วนสถานบันเทิง ร้านน้ำชาริมทางฟุตบาท ปิดตามมาตราการที่ได้ประกาศไว้ ร้านที่พี่น้องประชาชนจำเป็นต้องใช้ ร้านอาหาร ร้านขายยา ยังเปิดปกติอยู่ ยกเว้นการเคลื่อนบุคคลออกนอกพื้นที่ ให้ประชาชนอยู่ในอำเภอตนเอง และอยู่ในจังหวัดของตนเอง ไม่มีการเคลื่อนย้าย ต้องขอความร่วมมือ ให้อยู่กับบ้าน ขอยืนยันการดำรงชีวิตประจำของประชาชนยังปกติ ยกเว้นการไปมาหาสู่ข้ามเขตจังหวัด เพื่อต่อสู้ไวรัสโควิด-19 ให้ได้ คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า หากมีฝ่าฝืน ก็จะมีมาตราการลงโทษตามกระบวนกฎหมายต่อไป” พล.ท.พรศักดิ์

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image