จับผู้ต้องหาหนีหมายจับ 5 คดีคาด่าน ทำเนียนใส่หน้ากากฯตบตา ค้นเจอยาบ้า 2 หมื่นเม็ด

จนท.สนธิกำลัง จับผู้ต้องหาหนีหมายจับ 5 คดี คาด่านชายแดนสังขละบุรี พร้อมยาบ้า 2 หมื่นเม็ด ทำทีปิดแมสก์ป้องกันโรคโควิด-19 ตบตา แต่ไม่เป็นผล

จากคำสั่งของ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งให้ปิดด่านชายแดนทุกช่องทางรวมทั้งช่องทางธรรมชาติเพื่อสกัดโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายไปในวงกว้าง รวมทั้งการลักลอบนำเข้ายาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด

วันที่ 29 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.นันทเศรษฐ สุขนพกิจ ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ร.19/ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี พ.อ.อนิรุจน์ ดิษฐประชา รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี พ.ต.ท.วิทยา อยู่บำรุง ผบ.ร้อย ตชด.134 ร่วมกันวางแผนจับกุม ภายหลังจากได้รับรายงานจากสายลับว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดเข้ามาในประเทศผ่านผ่านพื้นที่ อ.สังขละบุรี

จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.กฤญตม์ นุ่นชูคัน สว.สส.สภ.สังขละบุรี สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณจุดตรวจร่วมสะพานรันตี หมู่ที่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กระทั่งพบรถต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ แสดงจึงตัวขออนุญาตตรวจค้นรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 2417 กาญจนบุรี พบชายต้องสงสัย ใบหน้าปิดด้วยซ้ำแมส ป้องกันโรคโควิด-19 มี นายภาคิน ไชยหาญ อายุ 36 ปี  หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ขับมาคนเดียว

เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถอย่างละเอียดพบกระติกน้ำใบใหญ่สีฟ้าด้านหน้าคนนั่งแถวซ้าย พบสิ่งของผิดปกติเป็นมัด ห่อหุ้มพลาสติกใส 2 มัด แบ่งเป็นซองยาสีฟ้า จึงทำการตรวจสอบพบยาบ้าเม็ดสีส้มมีตัวหนังสือดับบลิววาย จำนวน 20,000 เม็ด หากหลุดรอดไปถึงมือผู้ซื้อคิดเป็นมูลราคาไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท จึงทำการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี

Advertisement

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นัดให้เอายาบ้ามาทิ้งไว้ในตัวอำเภอสังขละบุรี แล้วให้ตนเองนำไปส่งในตัวจังหวัดกาญจนบุรี และจะมีคนมารับ โดยตนได้รับค่าจ้างขนครั้งนี้ 20,000 บาท

สำหรับปัญหายาเสพติดทางสำนักงาน ปปส.ภาค 7 ได้เข้มงวดมาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีแนวเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี และชายแดนด่านสิงขอน จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ซึ่งจากการสืบทราบพบว่า ปัจจุบันยาบ้า ยาไอซ์ และ โคเคน กำลังเริ่มระบาดมาก โดยจะมาในรูปแบบต่างๆ ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมจะต้องทำการขยายผลให้ชัดเจนก่อนจะมีการเสนอข่าวออกไป เพื่อป้องกันขบวนการเคลื่อนย้าย ซุกซ่อน ทำลายยาเสพติด

ส่วนรายนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลไปแล้วไม่พบว่ามีขบวนการอื่นร่วมด้วย แต่พบว่าผู้ต้องหาหนีหมายศาลอยู่หลายคดี ซึ่งเป็นหมายคดียักยอกทรัพย์ทั้งสิ้น ประกอบด้วย 1.ตามหมายจับของศาลแขวงพัทยา ที่ 234/2562 ข้อหายักยอกทรัพย์ 2.ตามหมายจับของศาลพระนครศรีอยุธยา ที่ 292/2562 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 3.ตามหมายจับของศาลฉะเชิงเทรา ที่ 217/2560 ข้อหามีหมายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ตามหมายจับของศาลแขวงพัทยา ที่ 234/2562 ข้อหายักยอกทรัพย์ และ5.ตามหมายจับของศาลพระนครศรีอยุธยา ที่ 292/2562 ข้อหาลักทรัพย์โดยการแต่งกายเลียนแบบทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image