ไฟป่าอุทยานเขาหลวงยังไม่สงบ ผุดอีกจุดบนยอดเขา จนท.เผยเสียหายแล้ว 300 ไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 ก.พ.59 เวลา 09.00 น. ที่อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี นายวิศิษฐ คูรัตนเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าสถานการณ์ไฟป่าเขาหลวง ในพื้นที่ตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน ซึ่งอยู่ในเขตวนอุทยานเขาหลวงหลังจากที่เกิดไฟป่าลุกไหม้หลายจุดตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่าน ซึ่งทางนายอนุชา พัสถาน นายอำเภอทัพทัน และเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าได้เข้าพื้นที่ทำการดับไฟให้สงบลงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา

โดยหลังจากตรวจสอบความเสียหายพบว่าต้นไม้ภายในเขาได้รับความเสียหายไปกว่า 300 ไร่ และเมื่อช่วงเช้าวันนี้เวลาประมาณ 08.00 น. ได้เกิดกลุ่มควันไฟลอยขึ้นมาจากที่บริเวณเขาหลวงอีกรอบซึ่งห่างจากจุดที่เกิดไฟป่าจุดเดิมประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริเวณยอดเขาสูงชันยากต้อการเดินทางขึ้นไปทำให้ใช้เวลานานซึ่งเจ้าที่ได้ระดมกำลังขึ้นไปเพื่อเร่งทำการดับไฟป่าให้ได้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้ต้นไม้ได้รับความเสียหายไปมากกว่าเดิม ซึ่งสาเหตุการเกิดไฟป่าในครั้งนี้คาดเชื้อเพลิงมาจากชาวบ้านที่เข้าหาของป่าในพื้นที่และทิ้งบุหรี่ และจุดกองไฟในพื้นที่ป่าและไม่ทำการดับไฟให้สนิท จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการหาข้อมูลสาเหตุการเกิดไฟป่าที่แท้จริงต่อไป

โดยนายวิศิษฐ คูรัตนเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า เหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ในพื้นที่ อำเภอทัพทัน เป็นพื้นที่แรกที่เกิดเหตุไฟไหม้ป่า ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นเขตติดกับ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ โดยต่อจากนี้ทางหน่วยป้องกันรักษาที่ นว.3 (วังร่มเกล้า)ของกรมป่าไม้ ได้ร่วมกับทาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมืองอุทัยธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะร่วมกันจัดการอบรมประชาชนซึ่งได้ทำแผนงานไว้ก่อนหน้าแล้วนั้น และให้ทางอำเภอทัพทันได้ทำการประสานกับอำเภอโกรกพระ เนื่องจากเป็นเขตติดต่อกัน ในการเราร่วมกันดูแลพื้นที่และให้ความรู้แก่ประชาชนในสองพื้นที่ ให้ทุกคนมีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มฤดูไฟป่า จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเฝ้าระวังเหตุไฟป่าในพื้นที่ของตนเองอย่างใกล้ชิด จิตสำนึกในการรับผิดชอบร่วมกันในการป้องกันรักษาผืนป่าและป้องกันไฟป่า ซึ่งที่ผ่านมา ทางจังหวัดอุทัยธานีก็ได้ออกประกาศเตือนประชาชนถึงช่วงเวลาดังกล่าว ที่อาจจะเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย ทั้งนี้รวมถึงบ้านเรือนประชาชนด้วย และให้เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ดับไฟไว้เตรียมช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนมาตรการต่อจากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดชุดดำเนินการทางจิตวิทยา ออกเยี่ยมเยียนประชาชนตามโครงการ Stop Walk and talk ที่ได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จัดชุดเยี่ยมเยียนประชาชน ถึงที่บ้านและพูดคุยทำความเข้าใจโดยเฉพาะเรื่องไฟป่า ให้ประชาชนร่วมมือกันในการป้องกันดูแลรักษาป่า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image