รอง ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ เล็งปรับชาวต่างชาติ หากพบไม่สวมหน้ากากอนามัย

รอง ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ เล็งปรับชาวต่างชาติ หากพบไม่สวมหน้ากากอนามัย

ประจวบคีรีขันธ์ – เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดได้ออกประกาศคำสั่ง ให้คนไทยและชาวต่างชาติทุกรายที่อาศัยอยู่ในเขตจังหวัด ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท โดยมีการจัดทำคำสั่ง 2 ภาษา แจ้งให้ชาวต่างชาติรับรู้ผ่านทุกช่องทาง สำหรับผู้ค้าในตลาดทุกแห่งหากไม่สวมหน้ากากอนามัยจะห้ามไม่ให้ขายสินค้าโดยเด็ดขาด สำหรับการบังคับใช้กฎหมาย เจ้าพนักงานควบคุมโรคที่ได้รับการแต่งตั้งต้องทำหน้าที่อย่างเข้มงวด

นายภิรมย์ กล่าวว่า ขณะที่คำสั่งให้ปิดโรงแรมถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ แต่ยังพบบ้านพักประเภทพูลวิลล่าบางแห่งใน อ.หัวหิน ที่ลักลอบเปิดให้บริการในลักษณะเดียวกันกับโรงแรมสถานที่พัก จะมีชุดเจ้าหน้าที่ออกตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้มีการฝ่าฝืน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดให้แจ้งได้ที่หมายเลข 032-603183 , 1567 หรือ 191 ส่วนกรณีเรือประมงที่จะเข้ามาจอดเทียบท่าในจังหวัดได้ต้องเป็นเรือของผู้ประกอบการที่แจ้งเข้าแจ้งออกจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห้ามเรือจากนอกจังหวัดเข้ามาตามคำสั่งจังหวัด สำหรับลูกเรือประมงที่ขึ้นฝั่งทุกรายจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองวัดไข้ตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

“ ปัญหาของมูลนิธิกู้ภัยที่ไม่รับการยกเว้นการห้ามออกจากเคหสถานตามประกาศเคอร์ฟิว เวลา 22.00 – 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นนั้น ขอให้มูลนิธิสามารรถส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ ที่จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ฝ่ายปกครองอนุญาตให้ปฏิบัติงานในช่วงเวลาดังกล่าว โดยได้มอบให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย( ปภ.) ประสานมูลนิธิกู้ภัยทุกแห่ง พร้อมสำรวจความต้องการอุปกรณ์ป้องกันในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย เช่น ชุดป้องกัน PPE หน้ากากอนามัย ถุงมือ เพื่อจัดสรรให้ และขอยืนยันว่าหากมีอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน 1669 ต้องไปถึงที่เกิดเหตุก่อนหรือไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัย ส่วนกรณีการเก็บรักษาร่างผู้เสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุ จะต้องเก็บรักษาศพที่โรงพยาบาลเท่านั้น” นายภิรมย์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image