ตร.สภ.ลำปาว จับหนุ่มคาด่านหลังฝ่าฝืนเคอร์ฟิว พบเสพยาบ้าถูกดำเนินคดี 2 เด้ง

ตร.สภ.ลำปาว จับหนุ่มคาด่านหลังฝ่าฝืนเคอร์ฟิว พบเสพยาบ้าถูกดำเนินคดี 2 เด้ง

กาฬสินธุ์ – เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) จ.กาฬสินธุ์ ประจำวันที่ 5 เมษายน 2563 โดยยังมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 3 คน ผู้ป่วยเข้าข่ายสอบสวนโรค สะสม 95 คน อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1 คน สำหรับอาการของผู้ป่วยติดเชื้อทั้ง 3 คน อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มีอาการปอดอักเสบ ผู้ป่วยคนแรก ได้รับยาต้านไวรัส และเฝ้าดูอาการครบแล้ว แต่ยังรอดูอาการให้แน่ใจก่อนให้กลับบ้าน ส่วน ผู้ที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯและปริมณฑลจนถึงขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 16,305 คน ในจำนวนนี้กักตัว 14 วัน ครบแล้ว 1,439 คน

นายชัยธวัช กล่าวว่า สำหรับผู้ถูกกักตัว 14 วัน ยังไม่ใช่ผู้ป่วย แต่เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอาจเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ดังนั้น จึงต้องมีการเฝ้าระวังตัวเองอย่างเคร่งครัด แยกของใช้ส่วนตัว ที่นอน สำรับอาหารออกจากคนอื่น สวมหน้ากากอนามัย โดยหากไม่สามารถกักตัวเองที่บ้านได้ หน่วยงานในระดับอำเภอได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับการกักตัวไว้ให้ พร้อมอาหาร และของใช้ส่วนตัว เพื่อให้สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข สำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังคงมีการออกจากที่พักอาศัยในช่วงของการประกาศเคอร์ฟิว เวลา22.00 – 04.00 น. หรือการเปิดจำหน่ายอาหารให้มานั่งในร้าน ถือเป็นความผิด ต้องถูกดำเนินคดี ตามกฎหมาย ทั้งนี้หากพบเห็นผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสามารถแจ้งที่ได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และ 191

ขณะที่ การตั้งด่านตรวจในช่วงของการประกาศเคอร์ฟิว เวลา 22.00 – 04.00 น. เจ้าหน้าที่ยังคงเข้มงวด ซึ่งล่าสุดภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.วัชรไกร ใหม่คามิ สว.สภ.ลำปาว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลำปาว และฝ่ายปกครองทำการตั้งด่านตรวจแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินและการควบคุมการแพร่ระบาดของไว้รัสโควิด-19 เวลา 22.00 – 04.00น. ที่ถนนสายกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ บริเวณหน้าโรงเรียนชุมชนหนองสอ ต.หนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พบชายหนุ่มทราบชื่อภายหลังคือนายบริพัฒน์ นิยะรัตย์ อายุ 26 ปี ชาว ต.หนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ขณะขี่รถจักยายนต์ มายังด่านในช่วงเวลาเคอร์ฟิวและท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นพบยาบ้าห่อด้วยกระดาษฟอยล์จำนวน 1 เม็ดในกระเป๋ากางเกง

จากการสอบถาม นายบริพัฒน์ยอมรับว่ายาบ้าเป็นของตนจริง ซึ่งซื้อมาจากวัยรุ่นในพื้นที่มาไว้เพื่อเสพ และก่อนที่จะขี่จยย.มาที่ด่านก็เพิ่งกลับมาจากเสพยาบ้าจากบ้านเพื่อน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพและเป็นผู้ขับขี่รถจยย.ขณะมีสารเสพติด และออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00 -04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image