บุกจับร้านอาหารใต้ถุนโรงแรม เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ขายเหล้า-อาหาร ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อสุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ 6 เมษายน เวลา 01.20น. พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.มาโนช จันทร์เที่ยง รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ชัชชีวิน นาคมูสิก สวป. ร่วมกับ ร.อ.อดุลย์ พรหมบุตร หน.ชป.กอ.รมน.ภาค4พื้นที่เกาะสมุย นายศุภเกียรติ เพชรเศรษฐ์ ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเกาะสมุย นำกำลังเข้าตรวจสอบสถานบริการที่มีการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่1/2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
จากการตรวจสอบในพื้นทีได้พบว่าที่ร้านอาหารโบเดกะ ตั้งอยู่ชั้นล่างของโรงแรมเที่ยวสมุย ม.2 ต.บ่อผุด ยังคงเปิดไฟหน้าร้านให้บริการอยู่และได้ยินเสียงเพลงเปิดดังอยู่ จึงเข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบว่าร้านเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว มีการขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากหลายสัญชาติกำลังนั่งดื่มกินอยู่ตามโต๊ะภายในร้าน ที่มีการจัดเรียงให้นั่งกันแบบใกล้ชิด ยังพบอีกว่ามีนักท่องเที่ยวหลายคนไม่สวมใส่หน้ากากป้องกัน
เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามผู้ดูแลหรือผู้จัดการร้าน ได้มีผู้มาแสดงตน 3 คน คือ น.ส.ฉัตรดา ยิ้มแฉ่ง อายุ 21 ปี นายเทต โรเบิร์ต แรมเมริงเงอร์ วิชเชอร์ (MR.TATE ROBERT REIMERINGER-VISSER อายุ 25 ปี สัญชาติ แอฟริกาใต้ และ น.ส.ฮอลโลเวย์(MISS HOLLOWAY) อายุ 36 ปี สัญชาติ อังกฤษ จึงได้แจ้งให้ทราบว่า การเปิดให้บริการลักษณะนี้มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโควิด-19 และยังผิดกฏหมายฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ฉัตรดา ยิ้มแฉ่ง อายุ 21 ปี นายเทต โรเบิร์ต แรมเมริงเงอร์ วิชเชอร์ อายุ 25 ปี สัญชาติ แอฟริกาใต้ และ น.ส.ฮอลโลเวย์ อายุ 36 ปี สัญชาติ อังกฤษ ในข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่1/2563 (ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับมติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี วันที่ 17 มีนาคม 2563 เห็นชอบให้ปิดสถานประกอบการบางประเภทในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด) และร่วมกันเป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ต่อไป ส่วนนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการได้ทำประวัติบันทึกไว้ก่อนอนุญาตให้กลับที่พัก
