เมื่อวันที่ 6 เมษายน คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ที่มีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธาน มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอแม่สาย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ประด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อำเภอแม่สาย นำกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 193 คน ซึ่งได้กักตัวอยู่บริเวณศูนย์พักพิงชั่วคราววัดพระธาตุดอยเวา ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ภายหลังทั้งหมดได้เดินทางกลับมาจากการทำงานในพื้นที่จังหวัดต่างๆของประเทศไทย เพื่อเดินทางกลับบ้านในประเทศเมียนมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแรพ่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้มีการปิดด่านพรมแดนไทย-เมียน และทางการเมียนมาไม่เปิดรับแรงงานทั้งหมดกลับประเทศ ภายหลังมีการเปิดประเทศรับแรงงานเมียนมานับ 1,000 คนที่เดินทางมาก่อนหน้านี้ มีการตรวจพบแรงงานมีไข้สูงถึง 11 คน สุ่มเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทำให้กลุ่มแรงงานชาวเมียนมาที่พากันทยอยเดินทางมาภายหลังไม่สามารถข้ามด่านพรมแดนได้มานานร่วมสัปดาห์ จึงตกค้างอยู่บริเวณหน้าด่านจำนวนมาก ทำให้ทางชาวบ้านผวาว่าจะมีการแพร่เชื้อไวรัส ทำให้ทางจังหวัดได้จัดตั้งศูนยืพักพิงชั่วคราวให้เพื่อกักบริเวณและตรวจคัดกรองการติดเชื้่อ ทำให้ลล่าสุดทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และ ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก จึงได้มีการหารือกัน อีกครั้งเพื่อหาทางออกร่วมกัน จนทางการเมียนมายอมเปิดด่านพรมแดนชั่วคราวเพื่อรับแรงงานเมียนมาที่ตกค้างทั้งหมดกลับประเทศได้ในวันนี้
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดทำทะเบียนประวัติแรงงานทั้งหมด มีการจัดคิวการข้ามแดนตามวันและพื้นที่ที่เดินทางมา ก่อนที่จะมีการพาทั้งหมดขึ้นรถโดยสารสี่ล้อเล้ก(รถสองแถว) ร่วม 10 คันจากวัดพระธาตุดอยเวา ไปยังบริเวณด่านพรมแดนไทย-มียนมา แห่งที่ 1 เพื่อตรวจสอบเอกสารและทำเรื่องขอผ่านแดนตามระเบียบให้ถูกต้องและมีการตรวจวัดไข้และคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ครั้งสุดท้ายก่อนจะส่งตัวทั้งหมดกลับประเทศเมียนที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนเพียงจุดเดียวที่อนุญาติให้มีการขนส่งสินค้าผ่านแดนได้จุดเดียวอขงอ อ.แม่สาย ได้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบัน
