เมื่อวันที่ 6 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่หมู่บ้านช้างในตำบลกระโพ 5 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีบ้านหนองบัวหมู่ 14 บ้านตากลาง หมู่ 13 บ้านตาทิตย์ หมู่ 8 บ้านภูดิน หมู่ 15 บ้านหนองอีคูณ หมู่ 9 รวมทั้งศูนย์คชศึกษาและโครงการคชอาณาจักร (สวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์) ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้เกิดพายุฤดูร้อนฝนตก และมีลูกเห็บตก เป็นเหตุให้บ้านเรือนราษฎร ถูกกระแสลมพัดได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน รวมทั้งยุ้งฉางข้าวเสียหาย ที่หนักสุดคือ โรงพักช้างหรือบ้านที่ช้างพักอาศัยอยู่ โดยเฉพาะช้างน้อยพลายเลิศรักอายุ 3 ปี ช้างของนายพิชิต เมาตะยา บ้านท่าลาด อ.ชุมพลบุรี ช้างได้รับบาดเจ็บจากสันไทของโลงช้างปลิวหลุดลอยมาโดนเท้าช้างได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้แจ้งสัตวแพทย์แล้ว
เบื้องต้นนายอำเภอท่าตูม นายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ เข้ามาดูพื้นที่ พร้อมทั้งจิตอาสากำนันผู้ใหญ่บ้านมาช่วยตัดต้นไม้และช่วยเก็บกวาดสังกะสีสันไทที่หลุดออกมาจากหลังคาวัดแจ้งสว่าง ได้ช่วยกันเอาสิ่งของที่กีดขวางทางจราจรตรงบริเวณวัดแจ้งสว่างบ้านตากลาง และเข้าไปดูที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านตากลางซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ 3 ต้นล้มทับ ผู้อำนวยการ รพ.สต. นายภพธรรม สุขสนิท เล่าว่าพายุได้พัดถล่มแรงมาก ทำให้ต้นไม้ใหญ่ 3 ต้นล้มทับบ้านพักอนามัยเสียหายพอสมควรและเข้าไปดูอาคารโรงเรียนช้างบุญวิทยา ซึ่งเสาล้มหลังคาตกลงมาทั้งหมด
ตอนนี้หน่วยงานรัฐ องค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ ได้ลงตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้น และได้ทำการช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้นแล้ว ความเสียหายประเมินค่ายังไม่ได้ต้องรอตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
นายดิศพงษ์ นับวันดี ปลัด อบต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ รักษาการนายก อบต.กระโพ เผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้า อบต.กระโพ เร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนราษฏร ใน ต.กระโพ ตั้งแต่เมื่อคืนที่เกิดพายุฝน ลมกระโชกแรงในพื้นที่มีบ้านเรือน ยุ้งฉาง วัด และโรงเรียนได้รับความเสียกว่า 100 หลัง ในพื้นที่ ต.กระโพ มีบ้านหนองบัว กระโพ จินดา ตากลาง ตาทิตย์ โคกกุ่ม และบ้านภูดิน สำนักสงฆ์วัดป่าอาเจียง โรงเรียนช้างบุญวิทยา โรงเรียนบ้านตากลาง ฯลฯ ได้ระดมสังกะสี ไม้แผ่นและเครื่องใช้ที่จำเป็นเข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้วทุกครัวเรือน และจะได้เร่งสำรวจที่ตกค้างเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป หมู่บ้านที่เสียหายมากที่สุดคือบ้านตาทิตย์ จำนวน 70 หลังคาเรือน
