อสม.สั่งกักตัวนายอำเภอเมืองพังงา 14 วัน หลังย้ายจากภูเก็ตมารับตำแหน่งที่พังงา
พังงา- อสม.สั่งกักตัวนายอำเภอเมืองพังงา 14 วัน หลังย้ายจากภูเก็ตมารับตำแหน่งที่พังงา ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพักนายอำเภอเมืองพังงา เขตเทศบาลเมืองพังงา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ชุมชนชายค่ายเทศบาลเมืองพังงา เดินทางมาตรวจวัดไข้นายอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอเมืองพังงา พร้อมกับภรรยาและลูกชาย หลังจากเดินทางมาจาก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มารับตำแหน่งนายอำเภอเมืองพังงา เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งได้รายงานตัวกับ อสม.ในพื้นที่ และเทศบาลเมืองพังงาตั้งแต่วันแรกที่มาถึง พร้อมเข้าสู่มาตรการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งแต่ละวันจะมีเจ้าหน้าที่ อสม.แวะมาตรวจวัดอุณหภูมิ และสอบถามว่ามีอาการปกติดีหรือไม่
นายอดุลย์กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่มารับตำแหน่งที่อำเภอเมืองพังงา ก็เข้าสู่มาตรการตามประกาศของจังหวัดพังงาเหมือนกับพี่น้องประชาชนทั่วไปด้วยการกักตัวเองอยู่ที่บ้านพัก 14 วัน ซึ่งใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในบริเวณบ้านพัก โดยการทำงานในหน้าที่และติดตามข่าวสารของจังหวัดพังงาผ่านทางโทรศัพท์ ทางไลน์ การกักตัวเอง 14 วันนั้นเป็นมาตรการควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเป็นการสร้างความมั่นใจให้พี่น้องชาวพังงารวมถึงเพื่อนร่วมงานไม่ต้องหวาดระแวงมีติดเชื้อมาหรือไม่ เพราะเราเดินมาจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่มีการแพร่ระบาดค่อนข้างรุนแรง โดยในแต่ละวันเจ้าหน้าที่จะเอาแฟ้มมาเสนอวันละ 1 รอบ จากนั้นก็ร่วมกับภรรยาและลูกชายทำหน้ากากเฟซชิลด์แจกให้เจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจต่างๆ และเริ่มทำแปลงเกษตรข้างบ้านพักเป็นการออกกำลังกายและได้ปลูกผักไว้ทานเอง สำหรับบางคนคิดว่าการต้องอยู่กับบ้านเป็นเวลา 14 นั้น จะอยู่ไม่ได้บ้างอยากไปโน่นไปนี่บ้าง ก็ขอร้องพี่น้องประชาชนและพี่น้องข้าราชการที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงมาอยู่ในจังหวัดพังงา ให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ให้พังงาของเราเป็นเมืองที่น่าอยู่ตลอดไป และต้องขอขอบคุณทีม อสม.ของจังหวัดพังงาที่ร่วมเสียสละช่วยกันสแกนพื้นที่ ตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้ามาอยู่ในพื้นที่ชุมชนชนของตัว ให้ทุกคนต้องรายงานตัวและกักตัวเอง 14 วันไม่เว้นแม้แต่นายอำเภอ
สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดพังงา ประจำวันที่ 11 เมษายน 2563 เวลา 15.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันแล้ว 1 ราย พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) รายใหม่จำนวน 5 ราย ทำให้มียอดสะสมรวม 96 ราย ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันจากจังหวัดอื่น 20 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 101 ราย รอผลตรวจ 14 ราย
