วิกฤตภัยแล้งบางสะพาน กระทบสวนทุเรียนคลองลอย 3.2 พันไร่

เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส. ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ อ.บางสะพาน มีแนวโน้มรุนแรงสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนหลายตำบลขาดแคลนน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเพื่อเพี่อการเกษตร จากการลงพื้นที่ หมู่ 8 บ้านคลองลอย ต.ร่อนทอง พบว่าอ่างเก็บน้ำคลองลอยความจุ 2.1 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แห้งขอดเนื่องจากฝนทิ้งช่วง มีผลกระทบกับสวนทุเรียนคลองลอยที่กำลังให้ผลผลิตกว่า 3,200 ไร่ ล่าสุดได้ประชุมกลุ่มผู้ใช้น้ำพร้อมแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ส่วนเครื่องจักรกลที่ 6 กรมชลประทานมีแผนในขุดลอกสันอ่างเพื่อบรรเทาปัญหาในระยะสั้น โดยนายกองค์การส่วนตำบล ( อบต.)ร่อนทอง ให้การสนับสนุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ให้รถสูบน้ำไปแจกจ่ายบรรเทาปัญหาให้ชาวสวนทุเรียนก่อนเก็บผลผลิต สำหรับแผนระยะยาวผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานกรมชลประทานจัดสรรงบประมาณกว่า 1 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงให้รับน้ำได้มากขึ้นในช่วงฤดูฝน

นายประมวล กล่าวว่า สำหรับปัญหาภัยแล้งในเขตเทศบาลบ้านกรูด เป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศชื่อดัง พบว่าที่ผ่านมาไม่มีแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้เทศบาลต้องนำรถบรรทุกน้ำของเทศบาลและว่าจ้างรถบรรทุกน้ำของเอกชน พร้อมเร่งขุดบ่อบาดาล เพื่อนำน้ำดิบไปผลิตน้ำประปาให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน โรงแรมรีสอร์ท ที่ประสบปัญหาขาดน้ำเพื่อการอุปโภคมานานกว่า 2 ปีและจากการตรวจสอบพบว่าเดิมเทศบาลบ้านกรูดมีแผนการใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำมรสวบที่ หมู่ 4 ต.ชัยเกษม ภายหลังกรมทรัพยากรน้ำได้วางระบบท่อส่งน้ำเรียบร้อยแล้ว แต่ล่าสุดมีปัญหาชาวบ้านในตำบล ชัยเกษม ไม่ยินยอมให้นำน้ำดิบที่เหลือก้นอ่างมรสวบส่งผ่านระบบท่อให้เทศบาลบ้านกรูด

“เนื่องจากชาวบ้าน ต.ชัยเกษม อ้างว่าในพื้นที่ยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและน้ำกินน้ำใช้ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องจากสาเหตุที่กรมทรัพยากรน้ำได้ใช้งบประมาณ 37.9 ล้านบาท ปรับปรุงสันอ่างมรสวบใช้เวลานานกว่า 5 ปี แต่ปัจจุบันอ่างมรสวบยังไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากหลังผู้รับเหมาก่อสร้างเสร็จ พบว่าสันอ่างทรุด 3 ครั้ง ต่อมาสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 ได้เสนอของบประมาณเพิ่มอีก 139 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสันอ่างใหม่ทั้งระบบให้มีความมั่นคงแข็งแรง แต่คาดว่าอานจะได้รับจัดสรรงบประมาณในปี 2564 เป็นต้นไป จากนั้นจะต้องใช้เวลาก่อสร้างอีกนานพอสมควร เบื้องต้นปัญหานี้ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ชัยเกษมและเทศบาลบ้านกรูดเสียโอกาสจากการใช้น้ำดิบในระยะยาว และหลายฝ่ายมองว่าการใช้งบประมาณในโครงการนี้ไม่มีความคุ้มค่า” นายประมวลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image