นายกพัทยาระบุคำสั่งปลดล็อค 30 เมษายน กก.ควบคุมโรคติดต่อชลบุรี เป็นไปตามนโยบายภาครัฐเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วประเทศ แต่ยังคงรอดูและประเมินสถานการณ์วันต่อวันก่อนครบกำหนดหากพบปัญหายังลุกลามอาจมีการขยายเวลาในพื้นที่สุ่มเสี่ยง ขณะที่เมืองพัทยายังมีมาตรการเข้ม ข้น Lock Down ตามแผน
เมื่อวันที่ 15 เมษายน นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวถึงกรณีที่มีหนังสือคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี โดยนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่ลงนามคำสั่งในฐานะประธานคณะกรรมการ ซึ่งระบุว่าจังหวัดชลบุรีมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายลง และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการฯให้กำหนดระยะเวลาในการบังคับใช้กฎหมาย 8 คำสั่งที่ออกประกาศไปก่อนหน้านี้ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้นั้น กรณีดังกล่าวคงไม่ได้ขัดแย้งกับแผนการดำเนินการของเมืองพัทยาแต่อย่างใด โดยจะยังคงมีการ Lock Down ในการคัดกรองอย่างเข้มข้นการเข้าออกของประชาชนสู่พื้นที่ชั้นในซึ่งยังมีกลุ่มบุคคลในกลุ่มเสี่ยงอยู่ โดยนอกจากการคัดกรองบนถนนสุขุมวิทจำนวน 8 จุดแล้ว จะยังมีการเข้าถึงกลุ่มเสี่ยงโดยทีมงานเจ้าหน้า ที่ของเมืองพัทยาและกระทรวงสาธารณสุขด้วยระบบ Lamp Test
ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องที่สามารถรู้ผลการติดเชื้อได้ภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการคัดกรองบุคคลในกลุ่มเสี่ยงไปแล้วกว่า 600 ราย และสมารถตรวจพบ 1 รายซึ่งก็ได้นำตัวไปกักกันและรักษาอาการตามขั้นตอนแล้ว ส่วนประกาศคำสั่งดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐที่มีคำสั่งลงมายังทุกจังหวัด เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับการประกาศภาวะฉุกเฉินที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กรณีคงเป็นเรื่องของการผ่อนคลายและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้วยหลายพื้นที่สถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้นเป็นอย่างมาก ก็คงจะเป็นการตอบสนองเพื่อให้ได้เปิดพื้นที่สาธารณะ หรือกิจการ สถานประกอบการในบางประเภท เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นและให้ประชาชนกลับมามีงานทำ มีรายได้ อย่างไรก็ตามแม้จะมีคำสั่งให้ยุติในวันที่ 30 เมษายนนี้แต่ก็จะมีการประเมินสถานการณ์ก่อนถึงกำหนด เวลาแบบวันต่อวันว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นอย่างไร ซึ่งหากพบว่าปัญหายังคงไม่ดีขึ้นและยังส่งผลเสียต่อภาพรวมด้านการควบคุมโรคก็คงจะมีการนำเสนอหรือรายงานต่อจังหวัดชลบุรีและส่วนกลางเพื่อให้ดำเนิน การบังคับใช้กฎหมายต่อไป
