สมุทรสาคร โชว์แบบอย่างกักตัว 14 วัน ผ่านแล้วกลับบ้านได้ ‘สู้ไปด้วยกัน ไม่แพ้แน่นอน’

เมื่อวันที่ 15 เมษายน นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าฯ, นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าฯ, นายเอกพร จุ้ยสำราญ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร, นายแพทย์สุรพล อริยปิติพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร, นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร, นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สมุทรสาคร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันส่งตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่เข้ารับการกักตัวในพื้นที่โลคอล ควอรันทีน (Local Quarantine) ของจ.สมุทรสาคร 6 คน เป็นเวลา 14 วัน เป็นที่เรียบร้อยครบถ้วนสมบูรณ์ปลอดภัยไร้เชื้อโควิด-19 กลับสู่บ้านสู่ครอบครัว ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นอกจากจะกล่าวแสดงความยินดีกับทุกคนแล้ว ยังได้มอบหน้ากากผ้าพร้อมกับเจลแอลกอฮอล์ เป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกคน ก่อนที่จะให้รถตู้พาทุกคนไปส่งถึงบ้านถึงครอบครัวที่รออยู่

นายวีระศักดิ์ได้กล่าวขอบคุณผู้ที่เข้ารับการกักตัวทั้ง 6 คน ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เมื่อมาถึงประเทศไทยแล้วทุกคนยอมทำตามระเบียบด้วยการเข้ากักตัวในพื้นที่โลคอล ควอรันทีน เป็นเวลา 14 วัน จนแน่ใจว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 มาจากต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับตนเองแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับครอบครัวและผู้ที่ใกล้ชิดทุกคนอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้ง 6 คน ที่เป็นประชากรของ จ.สมุทรสาคร จึงถือเป็นแบบอย่างที่ดีที่ยอมเข้ารับการกักกันตัวและปฏิบัติตนตามมาตรการควบคุมโรค ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงช่วงเวลาที่ครบระยะ 14 วัน และยังอยู่ต่ออีก 1 วัน (14+1) เพื่อรอผลการตรวจสุขภาพร่างกายที่ชัดเจนจากทางแพทย์ ซึ่งก็ปรากฏว่าทุกคนมีผลเป็นลบ negative ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ไร้โควิด-19 สำหรับความรับผิดชอบต่อสังคมที่ทั้ง 6 คน ร่วมมือร่วมใจกันนี้ เป็นการแสดงออกให้เห็นว่า ทุกคนพร้อมที่จะสู้โควิด-19 ไปด้วยกัน และเราจะ “ไม่แพ้แน่นอน”

 

นายวีระศักดิ์ยังกล่าวด้วยว่า ผู้ที่ถูกกักตัวทั้ง 6 คนนี้ มีสภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ โดยยืนยันได้ว่าเป็นผู้ที่ปลอดภัยไม่ติดเชื้อโควิด-19 มาจากต่างประเทศอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้นอกจากจะเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของการเข้ารับการกักกันตัวแล้ว เมื่อทุกคนเดินทางกลับสู่ครอบครัวของตนเอง ก็ขอให้ช่วยกันร่วมมือเป็นแบบอย่างที่ดีอีกในการปฏิบัติตนตามมาตรการที่สำคัญทั้งเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Advertisement


นายวีระศักดิ์กล่าวด้วยว่า สำหรับศูนย์แห่งนี้ เป็นศูนย์กักกันตัว หรือพื้นที่โลคอล ควอรันทีน (Local Quarantine) นำร่องของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งการดำเนินงานทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนปัญหาบางอย่างที่พบในการดำเนินการนั้น ก็จะนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อใช้กับการปฏิบัติงานของศูนย์อื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากมีกรณีที่ต้องรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือผู้เฝ้าระวังเข้ารับการกักกันตัวในอนาคต

นายวีระศักดิ์กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ปัจจุบันสถานการณ์ของจังหวัดสมุทรสาคร จะมีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ส่วนผู้ติดเชื้อรายเดิมก็รักษาหายเพิ่มมากขึ้นจนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วหลายราย แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะไว้วางใจในสถานการณ์นี้ได้ เพราะโรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ และเชื้อโรคเป็นศัตรูตัวร้ายที่มองไม่เห็น ดังนั้น มาตรการต่างๆ ที่ออกมาจึงยังคงต้องดำเนินการต่อไป เพื่อการควบคุมโรคนั่นเอง ซึ่งก็อาจจะไปกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน แต่ก็อยากจะให้เข้าใจว่าสิ่งที่ทุกภาคส่วนกำลังร่วมกันดำเนินการอยู่นี้ ก็เพื่อรักษาชีวิตของทุกคนในจังหวัดสมุทรสาคร แต่ทั้งนี้หากทุกคนร่วมมือกันอย่างจริงจังและเข้มแข็ง จนสถานการณ์คลี่คลายลงได้อีก ก็อาจจะมีมาตรการผ่อนปรนออกมาได้บ้างในบางเรื่อง จึงขอให้ทุกคนนั้นติดตามข่าวสารและประกาศของทางจังหวัดสมุทรสาครต่อไป

ขณะที่หนึ่งในผู้ที่เข้ารับการกักกันตัว 14 วัน เปิดใจว่า ตนเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แล้วก็มาเข้ารับการกักกันตัวตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด จึงขอยืนยันได้ว่า การกักกันตัวไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว และยังเป็นผลดีทั้งต่อตนเองและครอบครัวอีกด้วย ดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทุกคน เมื่อมาถึงประเทศไทยแล้ว ก็ให้เข้ารับการกักกันตัวเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคน ส่วนการใช้ชีวิตในระหว่างการกักตัวให้เป็นสุขนั้น ที่ศูนย์แห่งนี้ เจ้าหน้าที่ดูแลดีมาก จึงทำให้ไม่ได้รู้สึกเครียดอะไร มีการใช้ชีวิตตามปกติ ภายใต้ระเบียบของเจ้าหน้าที่ แล้วก็ใช้เวลาว่างด้วยการดูโซเชียล หรือฟังเพลง จึงไม่เกิดความเครียดใดๆ แล้วก็รู้สึกดีใจมากที่จะได้กลับบ้านกลับไปหาครอบครัว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image