ผู้ว่าฯพิจิตรเอาจริง ขยายเวลาสั่งปิดร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดถึง 30 เม.ย. หลังพบคนฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จับได้ 24 ราย
วันที่ 16 เมษายน 2563 นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า จังหวัดพิจิตรเป็นจังหวัดที่อยู่ในหนึ่งของ 9 จังหวัดที่ยังไม่พบเชื้อของไวรัสโควิด-19 ดังนั้นจังหวัดพิจิตรจึงต้องรักษาพื้นที่เพื่อให้ปลอดจากเชื้อโควิด-19 โดยได้กำชับสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง
ซึ่งประกอบไปด้วยตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร สารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 36 ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร เข้มงวดตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าสู่จังหวัดพิจิตร ตามมาตรการคัดกรองอย่างละเอียดเข้มข้น บนทางหลวงสายหลักหมายเลข 11 เขาทราย-วังทอง และทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก รวมทั้งตัวเมืองพิจิตร รวมทั้งหมด 6 จุด เพื่อป้องการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้ดำเนินการบังคับตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ./ถภค ตามประกาศเคอร์ฟิว โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานห้วงระยะเวลา 22.00 -04,00 น. ซึ่งมีผลการปฏิบัติฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 ถึงวันนี้มีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดตามประกาศเคอร์ฟิวทั้งหมด 24 คดี 24 คน และผลคดีสิ้นสุดแล้ว 3 คดี
โดยผู้พิพากษาศาลจังหวัดพิจิตร สั่งจำคุกผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ปรับเป็นเงินสด 5,000 บาท และโทษจำคุกโทษให้รอลงอาญา 1 ปี และมีผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ไม่มีเงินชำระค่าปรับให้กักขังแทน
นายสิริรัฐกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนเองพร้อมด้วย นางสาวสมสกุล แอลเฟรด ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิจิตร รับมอบเจลแอลกอฮอล์จำนวน 20 กระปุก และหน้ากากอนามัยชนิดผ้า 2,000 ชิ้น จาก นายพรชัย อินทร์สุข นายภูดิท อินสุวรรณ์ และนายสุรชาติ ศรีบุศกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิจิตรทั้ง 3 เขต เพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังได้ใช้ป้องกันเชื้อโควิด-19
นางสาวสมสกุล แอลเฟรด ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขังทั้งหญิงและชาย จำนวน 1,778 คน ขณะนี้มีมาตรการป้องกันเข้มข้น โดยให้ผู้ต้องขังทุกคนสวมหน้ากาก ล้างมือ ทำความสะอาดภายในเรือนจำ พร้อมกับจัดกิจกรรมนันทนาการคลายความเครียด และชี้แจ้งสถานการณ์โควิด-19 ให้ผู้ต้องขังรับทราบในทุกๆ วันควบคู่กับมาตรการกักตัว 14 วัน
ตามแนวทางของกรมราชทัณฑ์ และจังหวัดพิจิตรในส่วนการเยี่ยมญาติ เรือนจำพิจิตรได้งดการเข้าเยี่ยมจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย แต่จะเปิดให้ติดต่อพูดคุยกันทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมการบริการดังกล่าว สำหรับประชาชนที่ต้องการเยี่ยมผู้ต้องขังผ่านไลน์สามารถลงทะเบียนหรือติดต่อสอบถามได้ที่เรือนจำจังหวัดพิจิตร โทรศัพท์
นายสิริรัฐกล่าวอีกว่า นอกจากตนเองได้ลงนามประกาศขยายเวลาสั่งปิดร้านค้าหรือผู้ประกอบการขาย สุราและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทุกชนิดที่ได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายสุรา ตามพระราชบัญญัติ ภาษีสรรพสามิต ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน จนถึง 30 เมษายน 2563
จากประกาศเดิมสั่ง เปิดวันที่ 10 เมษายน -16 เมษายน หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
