เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่บริเวณท่าปลาอุดมสุข บ้านโนนอุดม ต.ภูสิงห์ จ.กาฬสินธุ์ นางสาวกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ ได้รับแจ้งจากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังบริเวณสะพานเทพสุดา กำลังประสบปัญหาปลานิลน๊อกตายจำนวนมาก หลังอากาศแปรปรวนและร้อนจัดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จึงรายงานไปยังนายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ นายวุฒิชัย วังคะฮาต ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาปัญหาและสาเหตุการน๊อคตายของปลานิลที่เลี้ยงในกระชังเป็นจำนวนมาก
โดยนายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ นายวุฒิชัย วังคะฮาต ประมงจ.กาฬสินธุ์ ได้นั่งเรือออกสำรวจและสอบถามข้อมูลกับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ที่มีกว่า 50 ราย บริเวณสะพานเทพสุดาฝั่งอ.สหัสขันธ์ ทั้งนี้จากการสำรวจเบื้องต้นมีปลาที่เลี้ยงในกระชังน๊อคตายมีมากกว่า 20 ตัน และยังมีกระชังที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยกว่า 100 ตัน ทั้งนี้ได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอสหัสขันธ์ ได้เข้าตรวจสอบหาสาเหตุ รวมถึงการเร่งกระจายปลาในกระชังออกตลาดในราคาถูก โดยปลาน๊อค จำหน่ายในราคากิโลกรมละ 40 บาท ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาซื้อที่ท่าปลาจำนวนมาก
นางสาวกฤษณา เขามีทอง ประมงอ.สหัสขันธ์ กล่าวว่า จากการสำรวจและตรวจสอบเบื้องต้นผลกระทบมาจากค่าDOตอนเช้าต่ำกว่า 2 โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดกาฬสินธุ์และเจ้าหน้าที่บริษัทเบทาโกรลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำร่ามกัน นอกจากนี้ปัญหาของสภาพอากาศแปรปรวน ร้อนอบอ้าว และกระชังปลาวางแนวขวางทางลม เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ปลาน๊อคจำนวนมาก โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังบริเวณนี้มีจะมีกลุ่มเกษตรกรกว่า 50 ราย มีปลามากกว่า 1,000 ตัน ต่อปีที่ส่งออกไปยังตลาดทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นพบความเสียหายสิ้นเชิงแล้ว ประมาณ 20 กระชัง หรือประมาณ 20 ตัน และกลุ่มเสี่ยงที่น่าจะมีปัญหาการน๊อคอีกกว่า 100 กระชัง หรือประมาณ 100 ตัน ทั้งนี้ได้ประสานพ่อค้า แม่ค้าเข้ามารับซื้อปลาจากเกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาวะขาดทุนในส่วนของปลาน๊อคในราคา กก.ละ 40 บาท ขณะที่ปลาสดจำหน่ายตอนนี้ที่ราคา กิโลกรัมละ 50 บาท รวมถึงการอพยพกระชังไปบริเวณปลอดภัยตามทิศทางลม แนะนำให้งดให้อาหารปลา 2 วันติดต่อกัน และระดมเรือหางยาวเข้าไปปั่นน้ำเพื่อเพิ่มค่าออกซิเจนในน้ำที่พอช่วยเหลือและลดการน๊อคตายของปลาในกระชังได้