เอาจริง!! เมืองพัทยาลงตรวจสอบบ้านสุขาวดี เตรียมรื้อ 22 เมษายนนี้

นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา มอบหมายให้ นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา นำเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา และกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่บริเวณอาคารริมทะเล “บ้านสุขาวดี” หมู่ 2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบและเตรียมเข้าทำการรื้อถอนอาคารดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 เมษายนนี้ โดยส่วนแรกจะมีการเก็บขนสิ่งของ การรื้อพื้นอาคารและโครงสร้างบางส่วนเพื่อไม่ให้สามารถใช้การได้ จากนั้นจะดำเนินการล้อมรั้วพื้นที่ดินสาธารณะทั้ง 11 ไร่ ซึ่งจะเป็นการดำเนินการเบื้องต้น ก่อนจะทำการจัดซื้อจัดจ้างภาคเอกชนเพื่อเข้ามาทำการรื้อถอนอาคารในส่วนที่เหลือต่อไป

สำหรับ “บ้านสุขาวดี” ดำเนินการก่อสร้างอาคารในพื้นที่สาธารณะ และบุกรุกทำประโยชน์มานาน กรณีนี้มีข้อพิพาทระหว่างบ้านสุขาวดีกับเมืองพัทยามานาน กระทั่งสุดท้ายผลของการอุทธรณ์คำสั่งก็มีการวินิจฉัยไม่รับคำอุทธรณ์ จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายทันที โดยปิดหมายเพื่อให้รื้อถอนอาคารจำนวน 3 หลัง โดยมี 1 อาคารขนาดใหญ่เป็นอาคารขนาดใหญ่ลักษณะเป็นอาคารโครงเหล็ก 2 ชั้น ขนาด 18.30×55.30 เมตร จำนวน 1 หลัง และป้ายโครงสร้างเหล็กขนาด 10×13 เมตรจำนวน 2 ป้าย ที่บุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ และอาคารขนาดเล็ก 2 อาคารซึ่งเป็นอาคาร ค.ส.ล. ขนาด 35×40 เมตรจำนวน 1 หลัง และอาคาร ค.ส.ล. ขนาด 5×15 เมตรจำนวน 1 หลังบริเวณริมทะเล ที่มีแนวอาคารไม่พ้นระยะกันแนวเขตห่างจากทะเลอีก 2 อาคารขนาดเล็ก ซึ่งได้ปิดหมายคำสั่งไปตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อกำหนดของกฎหมายได้ให้ระยะเวลากับทาง “บ้านสุขาวดี” ดำเนินการตามคำสั่งภายในระยะเวลา 15 วัน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เนื่องจากครบกำหนดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาทางเมืองพัทยาได้ทำการติดประกาศหมายผลการอุทธรณ์ และประกาศคำสั่งของเมืองพัทยา กรณีการแก้ไขปัญ หาการบุกรุกที่สาธารณะของ “บ้านสุขาวดี” ซึ่งได้มีการจัดทำประโยชน์ และการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่จำนวน 1 อาคาร ขนาดเล็ก 2 อาคาร บนที่ดินสาธารณะริมทะเลขนาด 11 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตและบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นปัญหาเรื้อรังมาเป็นเวลานาน โดยมีการปิดประกาศแจ้งผลการอุท ธรณ์คำสั่งเมืองพัทยากรณีที่ทาง “บ้านสุขาวดี” ในนาม บ.เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ว่าคำสั่งเมืองพัทยาไม่ชอบด้วยกฎหมายสร้างความไม่เป็นธรรมและภาระแก่บริษัท เนื่องจากที่ดินที่งอกจากโฉนดของทางบริษัท ซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ มีผลให้ทางบริษัทมีกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินนั้น ขณะที่อาคารทั้งหมดสามารถดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ แต่หนังสืออุทธรณ์ดังกล่าวพบว่าเจ้าของอาคารมีผู้ลงนามในหนังสือคำอุทธรณ์ในการยื่นร้องต่อคณะกรรมการจำนวน 2 รายนั้น หนังสือไม่ปรากฏการประทับตราสำคัญของทางบริษัท แต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นการอุทธรณ์ที่ไม่มีผลผูกพันกับบริษัท จึงไม่เป็นผู้อุทธรณ์ที่ถูกต้อง และผู้ร้องทั้ง 2 มิใช้ผู้รับคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร วินิจฉัยไม่รับอุทธรณ์ไว้พิจารณา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image