เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ที่ จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมลักษ์ ยกน้อยวงค์ นายอำเภอเมืองนครพนม ประสานงานร่วมกับ พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองนครพนม นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน สำนักงานจังหวัดนครพนม เข้าตรวจสอบหาสาเหตุ และสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีเหตุพายุพัดถล่มบ้านทรงไทยที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ พังถล่มทั้งหลัง ทับคนงานก่อสร้างบ้าน เสียชีวิต 1 ราย คือ น้องมาร์ค อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านนางัว ต.นางัว อ.นาหว้า จ.นครพนม เหตุเกิดคืนวันที่ 21 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ขณะคนงานที่มารับเหมาตกแต่งบ้าน รวม 6 คน กำลังประกอบอาหาร หลังเลิกงานแต่พักอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว กระทั่งเกิดพายุฝนพัดถล่มเป็นเหตุให้โครงสร้างบ้านทรุดทั้งหลัง และพังถล่มทับผู้เสียชีวิตขณะนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ส่วนอีก 5 คน อยู่บนบ้านวิ่งหนีเอาชีวิตรอดทัน
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบชื่อเจ้าของบ้าน คือ นายเจษฎา นครังสุ อายุ 45 ปี ทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 259 หมู่ 1 ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ให้ข้อมูลว่า ก่อนนี้มาซื้อที่ว่างเปล่า ประมาณ 5 แสนบาท เพื่อสร้างบ้านสำหรับเป็นพักผ่อน พร้อมปรับถมที่ใหม่ ก่อนทำการก่อสร้าง ซึ่งมีผู้รับเหมาทำโครงสร้างไปก่อนหน้านี้ จากนั้นทีมช่างชุดล่าสุดมารับจ้าง ตกแต่ง ใกล้แล้วเสร็จสมบูรณ์ เหลืออีกประมาณ 20 -30 เปอร์เซ็นต์ กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น
ส่วนสาเหตุจากการตรวจสอบสภาพบ้านที่พังถล่ม คาดว่า มาจากโครงสร้างไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีความแข็งแรงเพียงพอรับน้ำหนักตัวบ้าน บวกกับพื้นที่ก่อสร้าง เป็นพื้นที่เพิ่งปรับถมที่ ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวได้ง่าย เมื่อเกิดพายุทำให้โครงสร้างทรุดตัวพังถล่มลงมา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะสอบสวนเจ้าของบ้าน รวมถึงผู้อยู่ในเหตุการณ์โดยละเอียด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานจังหวัดนครพนม จะสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อหาทางเยียวยาช่วยเหลือผู้เสียชีวิต เนื่องจากเป็นเด็กนักเรียน ที่เพื่อนชักชวนมาทำงานหารายได้พิเศษช่วงปิดภาคเรียน
นายกิตติธัช นาโควงศ์ อายุ 45 ปี ชาว ต.นางัว อ.นาหว้า จ.นครพนม หัวหน้าช่างที่รับเหมาตกแต่งบ้าน ให้การว่า ก่อนมารับจ้าง บ้านหลังนี้ก่อสร้างเรียบร้อย ในส่วนของโครงสร้าง ตนจึงมารับงานส่วนของงานตกแต่งงานไม้ โดยมีแรงงานทั้งหมด 6 คน มีเด็ก 3 คน ซึ่งเป็นญาติคนรู้จักในหมู่บ้านเป็นเด็กนักเรียนที่มารับจ้างทำงานหารายได้เสริมช่วงปิดภาคเรียน รวมถึงน้องที่เสียชีวิตด้วย
ขณะเกิดเหตุกำลังจัดเตรียมรับประทานอาหารหลังเลิกงาน โดยจะพักที่ตัวบ้าน โดยอยู่บนตัวบ้าน มีเพียงผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน กระทั่งเกิดพายุฝนลมแรงมาอย่างรวดเร็ว ไม่ถึง 30 นาที พบตัวบ้านโยกเอียงพังถล่มลงมาแบบไม่คาดคิด ตนพยายามเรียกคนงานให้หนีเอาตัวรอด ต่างพากันวิ่งคนละทิศละทาง จนพายุฝนสงบและบ้านพังถล่มลงกองกับพื้น จึงพบน้องมาร์คถูกทับเสียชีวิตอยู่ใต้ถุนบ้าน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบนำร่างออกมาจากซากบ้าน
