ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์เร่งช่วย 2 หมู่บ้าน หลังภูทับเบิกถูกพายุลูกเห็บถล่มเละ สั่งอำเภอ-ท้องถิ่นเร่งสำรวจ อึ้ง!ลูกเห็บตกขาวโพลนเห็นใจชาวบ้านเหมือนถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
วันที่ 23 เมษายน นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงถึงการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดพายุลูกเห็บถล่มภูทับเบิกอย่างหนัก จนทำให้ราษฎรชาวเขาใน 2 หมู่บ้านที่ ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพหลักได้แก่เพาะปลูกกะหล่ำปลีและผักกาดขาว(ลุ้ย)เสียหายยับว่า ได้สั่งการให้ทางอำเภอหล่มเก่าและทางท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนแล้ว
ซึ่งหากกระทบไม่มากทางท้องถิ่นสามารถยื่นมือเข้าช่วยเหลือได้โดยทันที แต่หากผลกระทบมีจำนวนมากก็ให้เสนอขอความช่วยเหลือผ่านไปยังทางอำเภอ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการบรรเทาสาธารณภัยเพื่อพิจารณา แต่หากเกิน 100 หลังคาเรือนหรือวงเงินความเสียหายเกิน 5 แสนบาท ทางจังหวัดก็จะเรียกประชุมโดยเร่งด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยทันที สำหรับเงินช่วยเหลือเหตุวาตภัยหรือภัยพิบัติต่างๆนั้น ทางส่วนกลางโอนมาให้ 50 ล้านบาททั้งปี แต่ตอนนี้ยังเหลืออีกราว 20 ล้านบาท
นายสืบศักดิ์กล่าวว่า ฉะนั้นตอนนี้จึงอยู่ที่การสำรวจของทางอำเภอและทางถิ่นเร่งทำให้เสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ยังมีกิ่งกาชาดและกาชาดจังหวัดก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยทันทีหากได้รับการร้องขอ อย่างไรก็ตามสำหรับการเกิดเหตุวาตภัยเมื่อวานนี้ไม่ได้มีเพียงที่ภูทับเบิกเท่านั้น
แต่จากรายงานเบื้องยังมีอีกหลายอำเภอที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ก็สั่งการให้ทางอำเภอและท้องถิ่นเร่งทำการสำรวจให้เสร็จโดยเร็ว หากสำรวจเสร็จเร็วชาวบ้านหรือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการโดยรวดเร็วเช่นเดียวกัน
“วาตภัยฤดูร้อนมีทุกปีในช่วงสงกรานต์แต่ถึงขนาดมีลูกเห็บตกก็แสดงว่า สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สำหรับที่ภูทับเบิกตกขาวโพลนขนาดนั้นก็แลดูว่าตกค่อนข้างหนัก และเห็นใจชาวบ้านและเกษตรกรเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แต่อย่างไรก็ตามแปลงปลูกผักและพืชผลการเกษตรที่ได้รับความเสียหายอันเกิดจากวาตภัยนั้น ก็จะได้รับความช่วยเหลือในระดับหนึ่งซึ่งเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ไม่ใช่ช่วยแบบชดเชย”นายสืบศักดิ์กล่าว
ด้านนายใจ แซ่เถา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 บ้านทับเบิก กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านเริ่มหายช็อคกับเหตุการณ์พายุลูกเห็บตกกระหน่ำ ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดได้แก่บ้านใหม่ร่องกล้าและพื้นที่คาบเกี่ยวกับบ้านหมันขาว เวลานี้อยู่ระหว่างให้ชาวบ้านหรือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งบ้านเรือนได้รับความเสียหายหรือพืชผลการเกษตรได้รับความเสียหาย ให้เข้าแจ้งที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน โดยขณะนี้เริ่มมีชาวบ้านทยอยเข้ามาแจ้งแล้วเพียงแต่บางรายถ่ายภาพความเสียหาย โดยไม่มีเจ้าของหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบติดมาด้วย จึงขอให้ไปถ่ายภาพมาใหม่
“ส่วนที่ผมย้ำว่าสถานการณ์โควิดทำให้ชาวบ้านย่ำแย่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้มาเจอโคเห็บตกกระหน่ำอีกเหมือนถูกซ้ำเติมสถานการณ์ให้หนักยิ่งขึ้นไปอีกนั้น ตรงนี้ไม่ได้เกินเลยความเป็นจริง ต้องเข้าใจว่าชาวบ้านที่นี่มีอาชีพเพาะปลูกผักร้อยละ 90 การที่มีลูกเห็บตกกระหน่ำจนแปลงผักเหมือนถูกเหยียบย่ำไปกับพื้นดิน
ทำให้รับความเสียหายหนักอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบหลายสิบปี ส่วนสถานการณ์โควิดทำให้ที่ผ่านมาทำให้ขายผลผลิตไม่ได้ราคาและราคาตกเพราะไม่มีใครซื้อ จึงนับเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้”นายใจกล่าว
