พ่วง22ล้อ ลงเขาถนน304 เบรกแตกชนกระบะลอยลิ่ว พลิกคว่ำไฟลุกท่วม ตาย1 สาหัส4

ระวังภัย! พ่วง 22 ล้อบรรทุกน้ำตาลทรายจากโคราชไปท่าเรือชลบุรีเบรกแตก ขณะวิ่งลงเขาถนนสาย 304(โคราช-กบินทร์บุรี) เสยท้ายกระบะลอยคันหน้ากระเด็นข้ามแบริเออร์ล้อหลุด ไฟไหม้ตาย1สาหัส4

เมื่อเวลา 16.50 น.วันนี้ 26 เมษายน 2563 ร.ต.อ.ติพล วาสโคกสูง รองสารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.วังของแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) เกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกพ่วง 22 ล้อบรรทุกน้ำตาลทรายจาก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา บรรทุกน้ำตาลทรายขาวมาเต็มคัน ปลายทางท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อถึง กม.210+500 หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ก่อนถึงศาลโทน 200 เมตร รถเบรกแตก ไม่สามารถควบคุมรถได้ ได้เฉี่ยวชนรถยนต์กระบะ ที่วิ่งด้านหน้าชนแท่งแบริเออร์กั้นไหล่ทางจนเหิรข้ามพร้อมพลิกคว่ำตกข้างทางล้อหลังหลุด 2 ล้อ บาดเจ็บสามราย (ขาย1หญิง 2) หน่วยกู้ภัยฯได้รีบนำส่ง รพ.นาดี ส่วนรถยนต์บรรทุกพ่วงได้ชนแท่งแบริเออ์กั้นไหล่ทางพลิกคว่ำเกิดไฟลุกไหม้ คลอกผู้โดยสารเป็นหญิงถูกไฟคลอกเสียชีวิต ส่วนคนขับขี่ติดภายในได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งรพ.นาดีจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น พร้อมด้วย นายนพดล งามเหลือ นายอำเภอนาดี รีบไปที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ เป็นถนน 4 ช่องจราจร ช่วงทางโค้งเกือบหักศอก ขาลงจากถนนผ่านภูเขาระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก เลยจากทางหยุดรถฉุกเฉินหน้าสำนักสงฆ์เขาทราบ ก่อนถึงศาลเจ้าพ่อปู่โทนเกือบ 200 เมตร พบเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณหัวเก๋งรถบรรทุกพ่วง ไม่ทราบยี่ห้อ สีหัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 72-3732 ชลบุรี ทะเบียนหางพ่วง 72-9439 ชลบุรี เนื่องจากใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิง มีนายวิชาญ บุญคุฑ อายุ57ปีเป็นคนขับติดภายในและยังมีคนนั่งข้างเป็นภรรยาทราบชื่อต่อมาคือพัชรา หรือ“แขก” กรุณา อายุ 48 ปี ถูกไฟคลอกเสียชีวิต

และห่างจากรถบรรทุกพ่วงขึ้นไป เกือบ 20เมตรเศษ มีถุงน้ำตาลทรายหล่นกระจายเกลื่อนเต็มพื้นที่ถนน และ พบรถยนต์ปิคอัพ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กบ 1170 ฉะเชิงเทรา ชนแท่งแบริเออร์กั้นไหล่ทางและเหินลอยขึ้นฟ้าตกถนนตกอยู่ในไหล่ทางด้านซ้ายขาลงจากเขาโทน สภาพล้อลอยชี้ฟ้า ล้อหลังหลุด 2ล้อ รถพังเสียหายหลังคายุบเข้าหาตัวรถ ภายในมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง2 ราย ทราบต่อมาคือ นายวิเชียร ไชยบัวรินทร์ อายุ 52 ปี ชาว หมู่ 7 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นคนขับ พร้อมบุตรสาวทั้ง 2 คน คือ ด.ญ.สมิตา ไชยบัวรินทร์ อายุ 14 ปี และ น.ส.อาทิตา ปรุงโพธิ์ อายุ 24 ปี ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้ช่วยกันนำผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถ พร้อมส่งผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาดี

Advertisement

ทั้งนี้ นายนพดลงามเหลือ นายอำเภอนาดี ได้มาสั่งการ พร้อมรถยนต์บรรทุกน้ำของ อบต.บุพราหม์ และ อบต.ทุ่งโพธิ์ อำนวยการ ดับเพลิงบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อม ปิดกั้นการจราจรเพื่อเคลื่อนย้ายรถยนต์บรรทุกที่กีดขวาง และล้างผิวจราจร ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงเพื่อเปิดช่องการจราจรที่คราบน้ำมันเครื่องแตกกระจาย และน้ำตาลทรายที่ตกปิดช่องจราจร 1 ช่องทาง ซึ่ง จากอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้จากจราจรช่วงลงจากเขาโทน มีรถติดเป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร

นายนพดล กล่าวว่า “จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ รวมในขบวนทั้งหมด 3 คัน ได้บรรทุกน้ำตาลทรายขาวเต็มคันรถวิ่งมากจาก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เพื่อไปส่งน้ำตาลทรายที่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อรถมาถึง กม.210+500 ก่อนถึงศาลโทน 200 เมตร ปรากฏว่ารถไม่สามารถควบคุมรถได้ ทำให้รถไปเฉี่ยวชนรถยนต์กระบะที่วิ่งอยู่ด้านหน้าพลิกคว่ำตกข้างทาง จากนั้นรถบรรทุกพ่วงเกิดพลิกคว่ำจนเกิดไฟไหม้ และการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

สำหรับถนนสาย 304 (นครราชสีมา – กบินทร์บุรี) ช่วงวิ่งผ่านบนภูเขา จะมีหลายทางโค้ง(26โค้ง) และยาวไกลกว่า 12 กม.,ความลาดชันสูง รถโดยสาร หรือ รถบรรทุกขนาดใหญ่มักเกิดเบรกแตก เป็นประจำ ที่รถขนาดใหญ่ต้องตระหนัก –ระวังภัย” นายนพดล กล่าว

Advertisement

ด้าน น.ส.น้ำ (ขอสงวนนามสกุล) กล่าวว่า “ก่อนเกิดเหตุรถคันที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ได้เกิดท่อเบรกลมขาด และแวะเปลี่ยนที่จุดสกัดบ้านผางามก่อนลงจากภูเขา โดยรถบรรทุกน้ำตาลออกมาจาก อ.ครบุรี รวม 3 คัน วิ่งเป็นขบวน จะไปส่งน้ำตาลทรายเต็มทุกคันที่แหลมฉบัง หลังเปลี่ยนท่อเบรกลม ระหว่างลงภูเขารถคันที่เกิดอุบัติเหตุได้แซงรถคันที่ตนเองนั่ง มาด้วยความเร็ว สักครูป้าแขก (ผู้เสียชีวิต)ได้โทรศัพท์เข้ามาบอกว่าคนขับ(สามี)เอารถไม่อยู่ และมาพบอีกทีรถพลิกคว่ำไฟลุกท่วม มีผู้เสียชีวิต –บาดเจ็บดังกล่าว” น.ส.น้ำ กล่าว

ขณะที่นายวิเชียร ไชยบัวรินทร์ อายุ 52 ปี คนขับรถกระบะกล่าวว่า “ก่อนเกิดเหตุตนเองไปสร้างบ้านที่ จ.นครราชสีมาเพื่อย้ายไปอยู่ที่นั่น ระหว่างเดินทางกลับ รวม 3 คนพร้อมลูก ๆ เห็นกระจกหลังรถพ่วงมาเร็วมาก ยังไม่ได้ทันหลับถูกชน รวม 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 ถูกชนจนเหินขึ้นแท่งแบริเออร์กั้นไหล่ทางรถลอยและพลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คนรถแหลกทั้งคันโชคดีที่ตนสวมแหวนหลวงพ่อโสธรจึงแคล้วคลาดอภินิหารย์ ”นายวิเชียรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับถนนสาย 304 (นครราชสีมา-นาดี) ช่วงผ่านระหว่างบนภูเขา อุทยานแห่งชาติทับลานกับอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่มรดกโลก เป็นถนนสายเสี่ยงภัยที่มักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทุกๆ ปี จนกรมทางหลวงอนุมัติงบประมาณมหาศาลหลายหมื่นล้านบาท ในการก่อสร้างขยายผิวการจราจร ที่แต่เดิมบนภูเขาถนนแคบมีเพียง 2 ช่องการจราจร ขยายให้เป็น 4 ช่องการจราจร พร้อมกับ มีการก่อสร้างอุโมงค์ เชื่อมผืนป่ามรดกโลกให้สัตว์ป่าเดินผ่านด้านบน และยวดยานวิ่งในอุโมงค์ เป็นแห่งแรกในประเทศไทย, ก่อสร้างสะพานยกระดับให้สัตว์ป่าเดินลอดผ่านด้านล่างสะพาน โดยการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จเหลือเฉพาะช่วงรอยต่อระหว่าง จ.ปราจีนบุรี กับ จ.นครราชสีมาอีกเพียงเล็กน้อย แต่ภายหลังการก่อสร้างกลับพบว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะกับรถบรรทุกขนาดใหญ่, รถโดยสาร ที่มักพบปัญหาวิ่งด้วยความเร็ว และเบรกแตกมากกว่าเดิมเพิ่มเป็นเท่าตัว มีการเกิดอุบัติเหตุทั้งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บติดต่อกันเป็นรายวัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image