วันที่ 19 กรกฎาคม หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ในช่วงเกิดวิกฤตภัยแล้ง ทำให้ชาวบ้านมีไอเดียใหม่ ไม่ปลูกพืชที่เคยปลูกมาก่อน เปลี่ยนมาปลูกมันเทศแทนมันสำปะหลัง เนื่องจากมันเทศให้ราคาดีกว่าหลายเท่า โดยมันสำปะหลังพ่อค้าลานมันรับซื้อกิโลกรัมละ 1.00 -1.50 บาท แต่ถ้ามาปลูกมันเทศ จะได้ราคากิโลกรัมละ 9 บาท
นางวิไล เจริญมงคล เกษตรกรบ้านโคกไม้งาม หมู่ 4 ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กล่าวว่า แต่ก่อนชาวบ้านจะปลูกข้าวเป็นอาชีพหลักโดยทำนาปีละครั้ง ต่อมาทางราชการได้สร้างเขื่อนพระปรง ปลูกข้าวปีละ 2 ครั้ง และเมื่อปีที่ผ่านมา น้ำในเขื่อนพระปรงแห้งจ่ายน้ำให้เกษตรกรทำนาไม่ได้ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายให้ราษฎรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนข้าว จึงได้มีความคิดที่จะปลูกมันสำปะหลังแทน โดยขณะนั้นลานมันจะรับซื้อมันสำปะหลังในราคากิโลกรัมละ 2.50 บาท แต่เมื่อขุดหัวมันไปขายกลับให้ราคาเพียง 1 บาทกว่า ทำให้เกษตรกรขาดทุน
“ต่อมาได้เปลี่ยนมาปลูกมันเทศพันธุ์แครอต เนื้อมันออกสีแดงๆ เป็นที่นิยมบริโภคมาก จึงได้ปรับพื้นที่นาและพื้นที่ที่เคยปลูกข้าวกับมันสำปะหลังมาปลูกมันเทศแทน โดยซื้อยอดมันเทศจากพ่อค้าที่ขายพันธุ์ ในราคายอดละ 1 บาท เมื่อนำมาปลูกระยะเวลาประมาณ 3 เดือนก็ขุดมาขายในราคากิโลกรัมละ 9 บาท ซึ่งมีราคาดีกว่ามันสำปะหลังหลายเท่า และยังขายยอดพันธุ์ได้อีกด้วย ขณะนี้ที่บ้านโคกไม้งามหันมาปลูกมันเทศพันธุ์แครอตแทนอย่างอื่นแล้ว” นางวิไลกล่าว
ด้านนายจัด กุ่มประสิทธิ์ รองนายก อบต.ช่องกุ่ม และ เกษตรกรบ้านโคกไม้งาม กล่าวว่า ตนได้ให้คำแนะนำชาวบ้านให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย และเป็นที่ต้องการของตลาด
“ขณะนี้ชาวบ้านโคกไม้งามหลายครอบครัวหันมาปลูกมันเทศแทนมันสำปะหลัง เพราะได้ราคาดีกว่ามันสำปะหลัง และได้แนะนำให้ชาวบ้านปลูกพืชที่ตลาดต้องการ และไม่ให้ปลูกตามๆ กัน เพราะหากสินค้ามีมากไปจะทำให้ราคาตกต่ำ เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องด้วย โดยปลูกพืชอย่างฉลาด และอยู่อย่างพอเพียงจะไม่อดตายแน่นอน” นายจัดกล่าว
