ครอบครัวตกงานพิษโควิด อาศัยเพิงอยู่ เคราะห์ซ้ำหลานป่วย ยายแคะเบี้ยคนชราพาไปรพ. ถูกปฏิเสธการรักษา

ครอบครัวตกงานพิษโควิด อาศัยเพิงอยู่ เคราะห์ซ้ำหลานป่วย ยายแคะเบี้ยคนชราพาไปรพ. ถูกปฏิเสธการรักษา

รันทด ยายได้เบี้ยคนชรา หอบหลาน 4 ขวบไปรพ. ถูกปฏิเสธการรักษา ซ้ำพ่อแม่ตกงานพิษโควิด อาศัยเพิงสวนยาง ไม่มีข้าวกิน

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม มีรายงานว่า ที่บริเวณเพิงพักในสวนยาง จ.อุบลราชธานี พบ เด็กหญิงก. อายุ 4 ปีพร้อมด้วยนายบุญสาน (สงวนนามสกุล) อายุ45 ปี เป็นพ่อ และนางเพ็ง (สงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นยาย คอยดูแลหลานด้วยความเป็นห่วง ที่ต้องนอนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน จากการที่ตาทั้ง 2 ข้างอักเสบ และปวดบวมขึ้น พอได้เงินเบี้ยยังชีพคนชรารีบเหมารถพาหลานไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.อุบลราชธานี แต่ถูกปฏิเสธการรักษา เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายเพราะหลานเป็นต่างด้าว พ่อไทยแม่ลาว ต้องจ่ายค่าเอ็กซเรย์ก่อน 8,000 บาทเจ้าหน้าที่แจ้ง “เป็นคนลาว ก็ต้องไปรักษาที่ลาว” สุดท้ายต้องพาหลานกลับ

นางเพ็ง ผู้เป็นยาย เล่าว่า เด็กหญิงก.อายุ 4 ปีเป็นหลาน พ่อเป็นคนไทยแต่แม่เป็นคนลาว ไปทำงานขับรถส่งของที่จ.สมุทรปราการ หลังจากคลอดเด็กหญิงก็พามาให้เลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก จน 4 ขวบ โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์หลานมีอาการแก้มบวม จึงพาไปหาหมอที่ อ.เขมราฐหมอให้ยามากินก็ยุบนึกว่าจะหาย แต่ต่อมาที่บริเวณตาทั้ง 2 ข้างอักเสบปวดบวมขึ้นมา จึงได้พาหลานไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอทางโรงพยาบาลบอกว่าอาการหนัก ทางโรงพยาบาลเขมราฐก็เลยเอาใบส่งตัวให้ก็เลยพาหลานมาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง

กระทั่ง เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตนได้เงินเบี้ยยังชีพก็เลยเหมารถยนต์พาหลานมาที่โรงพยาบาลแห่งใหม่นี้ หมอบอกว่าให้ไปเอ็กซเรย์ จะต้องชำระ เงิน 8,000 บาทยายไม่มีเงินยายก็เลยบอกหมอว่าให้เอ็กซเรย์ก่อนได้ไหม คุณหมอบอกว่าไม่ได้ให้ชำระเงินก่อนถึงจะทำได้ จากนั้นหมอบอกว่าให้ไปเจาะเลือดพอได้ใบเจาะเลือดลงมาและให้มาชำระเงินตรงที่ชำระเงินมารออยู่ที่ชำระเงินเป็นชั่วโมง หลานก็ร้องไห้มากก็เลยออกมาหมอก็พูดหลายอย่าง “ทำไมไม่ไปหาหมอที่ฝั่งลาวมาอะไรตรงนี้”

Advertisement

ยายก็เลยไปหาเจ้าหน้าที่สงเคราะห์ เพื่อขอความช่วยเหลือทางเจ้าหน้าที่สงเคราะห์ก็บอกว่ายังไม่ได้ทำอะไรเลย มาทำไม ดุยายอีกยายก็เลยไม่มีที่ไปยายกับหลานก็นั่งร้องไห้วันที่พาหลานไปหาหมอมีเงินติดตัวอยู่แค่ 600 บาท เหมารถไป“คับแค้นใจมากไม่มีเงินให้หมอ ก็เลยพาหลานออกมาจากโรงพยาบาลหลานก็ร้องไห้ พากันออกมานั่งอยู่ข้างถนนจนถึงบ่ายสามโมงจึงได้พาหลานกลับ

ทุกวันนี้ก็มาอาศัยเพิงพักของเจ้าของสวนยางอยู่เงินจะซื้อข้าวกินก็ยังไม่มี พ่อแม่หลานก็ตกงานจากพิษ ‘โควิด-19’

ด้าน นายบุญสาน พ่อเด็กหญิงก. เล่าว่าตนเองเป็นคนไทยแต่ภรรยาเป็นคนลาว ถือบัตรประจำตัวสีชมพูมีบุตรด้วยกัน 2 คน คนแรกคือเด็กหญิงก. อายุ 4ขวบ ส่วนคนเล็กก็เป็นเด็กหญิงอายุได้ 3 เดือน ช่วงที่มีเด็กหญิงก. ได้เดินทางไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการหลังคลอดแล้วก็พามาให้นางเพ็งเลี้ยงจนถึงปัจจุบันอายุ 4 ขวบแต่ยังไม่ได้แจ้งเกิดจึงทำให้ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านส่วนคนเล็กแจ้งเกิดที่ อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี

Advertisement

ปัจจุบันตกงานจากพิษโควิด-19 จึงได้พากันเดินทางกลับมาอยู่ที่ อ.นาตาลจ.อุบลฯ โดยมาขออาศัยเพิงพักเจ้าของสวนยางอยู่ เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ลูกก็มาป่วยเงินจะรักษาก็ไม่มีที่เจ็บปวดมากที่สุดก็คือคำพูดของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล “เป็นคนลาวก็ต้องไปรักษาที่ลาว” ทั้งๆที่ผมเป็นคนไทย ลูกก็เกิดที่เมืองไทย จะผิดก็ตรงที่เมียเป็นคนลาว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image